Page 26 - PAAT_Journal_V1-2019
P. 26
PAAT Journal Vol. 1, No. 1, (June 2019)
ิ
ึ
ั
ั
ั
้
ั
้
ั
่
้
ิ
ตว การปล่อยตวชวคราว นอกจากน ยังยอนไปไดไกลถงตนทางในการจดวางกําลังของผูพทกษสันตราษฎร์ใหม ี
ี
้
์
้
้
้
ั
่
่
ื
ี
้
่
้
่
่
ความเหมาะสมกับระดบความเสียงในการเกิดอาชญากรรมของแตละพนทในแตละชวงเวลาไดดวย
่
่
ิ
ี
้
็
ั
็
ตวอยางทเหนไดชดเจนในกระบวนการยุตธรรมทประเทศไทยเรมมการนามาใชอยางเปนรูปธรรม คือ
ั
้
ิ
่
ี
ี
ํ
่
่
่
ิ
่
่
ํ
์
่
้
การใชระบบประเมนความเสียงแทนการเรียกหลักทรัพยค้าประกันเพือการปลอยตัวชัวคราวซึงไม่เพียงแต่มี
่
้
ี
2
้
้
้
ั
่
การทดลองใชระบบดังกล่าวในศาลของไทยตงแตตนป 2560 เท่านัน หากแต่ยังปรากฏในแผนปฏิรูป 10 ข้อ
้
ตามข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศดานกระบวนการยตธรรม อีกด้วย ทังนี ล่าสุดก็มีผลการศึกษา
้
3
้
ุ
ิ
ี
ื
่
ี
ี
่
่
้
่
ิ
เปรียบเทยบโมเดลประเมนความเสียงทีทดลองใชในประเทศไทยกับระบบอน ๆ ทมการใชกวางขวางใน
้
้
้
ี
่
ี
่
่
่
ิ
ตางประเทศ โดยในบทสรุปมข้อสังเกต และข้อเสนอแนะเพือการปรับปรุงระบบประเมนความเสียงทใชใน
ประเทศไทยอยางเปนรปธรรม
4
ู
่
็
ี
ิ
ั
ั
่
เปาหมายของการใช้ระบบประเมนความเสยงแทนการเรยกหลักทรัพยค้าประกนเพอการปล่อยตว
้
์
ํ
ี
่
ื
้
ํ
ุ
ิ
้
ื
้
้
้
ั
ชวคราวก็เพอลดความเหลือมล้าในประบวนการยตธรรมอนเนองมาจากรายไดและฐานะของผูตองหา ใหพน
ั
่
่
่
่
ื
ี
้
จากข้อครหา “คุกมไวขังคนจน” โดยเริมตนจากการใชเครืองมอทางสถตและคณิตศาสตรประกันภัย
์
่
ิ
้
้
่
ิ
ื
(Actuarial Science) ประมวลผลข้อมูลของผูต้องหาเพือเทียบเคียงกับฐานข้อมูลผูต้องหาทังหมดในระบบใน
้
้
้
่
ํ
้
้
ี
่
ิ
้
ี
ี
ี
ี
การประเมนวาผูตองหามโอกาสหลบหนีคดมากน้อยเพยงใด มโอกาสไปกระทาความผิดซา หรือก่อคดใหม ่
ํ
ิ
ํ
ี
่
่
ั
่
้
ั
่
็
่
้
ี
เพมเตมมากนอยเพียงใด ในกรณทความเสยงตากสามารถปล่อยตวชวคราวไดเลย หรือหากมความเสียงสูงขึน
่
้
ี
ิ
ี
ุ
ั
่
่
่
้
้
ั
้
ี
ั
ํ
่
แตอยูในระดบทยอมรับไดก็สามารถใชอปกรณตดตามตวเพอใหรูตาแหน่งปจจบนของผูตองหาตลอดเวลาเชน
์
่
้
ิ
ุ
ั
้
ื
้
กําไล EM (Electronic Monitoring)เพอลดความเสียงดงกล่าวก็ได
่
ื
่
้
ั
ิ
ั
ประโยชน์ของการนาเทคโนโลยมาใชในการประเมนความเสียงและตดตามตวผูตองหา ไมเพยงแตชวย
้
่
้
่
่
่
ี
ิ
ี
ํ
้
ื
่
่
่
ํ
ลดความเหลือมล้าอนเนองมาจากฐานะทางเศรษฐกิจเทานน หากแต่ยังเปิดโอกาสให้ผูต้องหาทีต้องถือว่า ยัง
้
ั
้
ั
่
้
้
้
้
่
ั
ี
ิ
็
ิ
ี
ี
ี
เปนผูบรสุทธไดมโอกาสใชชวต และประกอบอาชพไดตามปกติ ไมเป็นภาระของครอบครัว อกทงยงชวยลด
ิ
์
้
่
ั
่
ั
ุ
ุ
้
ี
้
่
่
้
้
ั
้
ภาระตนทนและค่าใชจายของรฐในดานสถานทคมขัง ดานอาหาร และดานการรกษาความปลอดภัยและอืนๆ
่
ซงใช้งบประมาณรวมสูงในระดบหลายพนล้านบาทตอป ี
่
ึ
ั
ั
้
ื
ั
้
่
ิ
ิ
นอกเหนือจากการใชกําไลตดตามตวทเปิดโอกาสใหผูตองหาสามารถในการเดนทางในเมอง/ใน
้
ี
้
่
้
ิ
ิ
ั
ี
่
ี
้
่
ื
ั
ประเทศได้โดยอสระแล้วเทคโนโลยนีเมอประสมกบเครืองตรวจจับสัญญาณ (sensor receiver) ทตดตงไว ้
้
่
่
้
ั
็
้
ี
้
ํ
อาคาร ก็ยงสามารถจากัดวงเคลือนไหวผูตองหาให้อยเฉพาะทีบาน หรือในเขตพืนททีกําหนดกได้ หรือหาก
่
่
ู
่
2 สถาบันวิจยและพัฒนารพีพัฒนศกด. (2561). คมือสาหรบการประสานความร่วมมือระหวางศาลยตธรรมกับหนวยงานใน
์
ิ
่
ั
ั
่
ิ
่
ํ
ั
ุ
ู
ิ
ิ
่
ั
้
่
ํ
ุ
ั
่
ํ
่
กระบวนการยตธรรมในการนารองปฏรูปการปลอยชวคราวด้วยระบบประเมินความเสยง และการกากับดูแลในชนปลอยตัว
่
ี
ั
้
ชวคราว.ไม่ปรากฏเลขหนา.
่
่
่
ั
ํ
ุ
ิ
3 ประกาศสานกนายกรัฐมนตรีเรืองการประกาศแผนการปฏรูปประเทศ. (2561, 6 เมษายน). ราชกิจจานเบกษา. เลม 135
ี
้
ตอนท 24ก. หนา84และ 92.
่
4 พิภพ อดร. (2562). การศกษาเปรยบเทยบโมเดลประเมินความเสยงเพือการปลอยตวชวคราว. เอกสารไม่ตีพิมพ์, วทยาลย
่
ึ
ั
่
ี
่
ี
ั
ั
่
ิ
ุ
ี
การยตธรรม, หนา 32-39.
ุ
้
ิ
่
18 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย