Page 30 - PAAT_Journal_V1-2019
P. 30
PAAT Journal Vol. 1, No. 1, (June 2019)
ํ
ั
เทคโนโลยีกบการพิจารณากาหนดโทษ
ํ
ิ
่
ั
ิ
ุ
็
ุ
ี
ิ
ปญหาใหญในกระบวนการยตธรรมกคือความไมยตธรรมในการพพากษาคด และการกาหนดโทษซง ึ ่
่
่
็
ิ
ิ
ั
ิ
ุ
ึ
ี
มกมเหตจากความแตกตางกันในเชงวจารณญาณ หรืออคตซงของผูพพากษามากกวาทจะเปนความแตกตาง
่
้
่
ี
ิ
่
่
ิ
ุ
่
้
ี
้
ั
่
ั
้
ี
่
ั
กันดวยเหตปจจยทเป็นลักษณะของคด ทงนีอคต หรือความโน้มเอยงทจะตดสินแตกตางกันของผูพพากษาเป็น
ั
ี
ี
ิ
้
้
่
ื
่
ี
่
้
ั
่
ิ
ุ
้
ี
่
ั
สิงทควบคุมไดยากเนองจากเปนปจจยดานบคคลทถูกประสมประสานและสังสมมาดวยอทธพลของปจจย
ั
ั
ิ
็
้
่
ึ
่
์
ี
มากมายทงดานการศึกษา ครอบครัว ประสบการณทํางาน และประสบการณส่วนบคคล ซงสิงเหล่านถูกหล่อ
ุ
ั
์
้
้
่
้
ู
่
ิ
หลอมใหกลายเป็นกรอบคิด และมมมองของผพพากษาแตละคนทีแตกต่างกัน โดยถือได้ว่าเป็นส่วนหนึงของ
้
่
ุ
ี
่
ระบบยตธรรมทตรวจจบไดยาก และไมอาจแยกออกมาได
่
้
ิ
้
ั
ุ
่
่
ิ
้
่
้
ุ
ิ
่
ั
ึ
ี
ี
่
ดงนัน เทคโนโลยีทีเข้ามาชวยเสรมสรางความโปร่งใส ความยตธรรมทเสมอภาคจงไมไดมงไปทการ
้
ุ
่
ั
กําจัดอคตทอาจมอยูให้หายออกไปจากระบบ สิงทเทคโนโลยสามารถทาได คือการทําใหเกิดความตระหนก
่
้
่
ี
ํ
ี
่
ี
ี
่
ิ
้
้
่
ั
่
่
และรับรูถึงโอกาสในการเกิดขึน หรือมอยของอคติทอาจนําไปสูความไมเสมอภาค โดยมงหวงใหความตระหนก
่
ั
ี
ู
ุ
ี
้
้
่
ี
่
็
่
่
่
้
ํ
ุ
และรับรในประเดนเหลานนจะนาไปสการลดความเหลือมล้าและสรางความยตธรรมทเสมอภาคไดในทีสุด
้
้
้
ํ
ู
ั
ู
ิ
่
ิ
์
ี
ุ
้
ั
้
ั
ตวอยางทเหนไดชดเจนคือการประยกตใชเทคโนโลย AI และ Big Data ในการพจารณากําหนดวงเงิน
ี
่
็
่
่
ั
่
่
ั
ั
ํ
ประกนเพอการปล่อยตวชวคราว การกาหนดโทษ การลดโทษ และการให้อภัยโทษในคดีต่าง ๆ ซึงใน
ื
ั
้
ํ
่
่
ตางประเทศมนโยบายและแนวทางชดเจนภายใตระบบทีเรียกรวม ๆ วา การประเมินความจาเปนและความ
็
ี
่
่
10
่
่
้
เสียง (Risk and Needs Assessment) โดยการวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ แห่งคดีทีอยูในฐานข้อมูลทังหมด แล้ว
่
็
่
ุ
่
ึ
ิ
ี
้
้
ใหข้อเสนอแนะแกผูพพากษาในการพจารณากําหนดโทษทเหมาะสมโดยคํานงบริบททเปนเหตปัจจัยแห่งคด ี
ิ
ี
ุ
ํ
ั
ี
ี
่
ี
รวมทงคณลักษณะของผตองหา/ผูกระทาความผิดในแตละคด โดยเทียบเคยงกบคดตาง ๆ ทไดมการพิจารณา
ี
้
้
ี
่
้
ู
้
ั
่
้
ตดสินกําหนดโทษไปแล้ว
ั
่
ิ
้
แน่นอน อานาจในการพิจารณากาหนดโทษยังคงอยในมอของผูพพากษาโดยสมบูรณ์ แตระบบดงกล่า
ํ
ั
ู
ํ
ื
่
ี
ี
ี
่
ู
ื
่
ิ
ี
่
ี
ึ
ึ
้
วจะใหข้อมลเพอประกอบการพจารณากําหนดโทษโดยเทยบเคยงกับคดอน ๆ ทมความคล้ายคลงกัน ซงก็เป็น
่
ื
ทงการสรางความตระหนัก และการเตอนใหผูพพากษาไดทบทวนอยางรอบคอบ และรอบด้านยิงขึน ก่อนทีจะ
ั
่
้
ื
้
่
้
้
้
่
้
ิ
ิ
ิ
่
่
กําหนดโทษในคดนน ๆ ในระบบศาลของบางพนทก็ไปไกลถงขันทีตองใหผูพพากษาเขียนคําวนจฉัย และ
้
ั
้
ึ
ี
้
ี
ื
้
้
้
ิ
ิ
ํ
ุ
ี
่
ี
ี
เหตผลยนยนในกรณท การพจารณากาหนดโทษมความแตกตาง หรือขัดแยงกับข้อเสนอแนะทีออกมาจาก
ื
่
ั
่
้
้
ํ
่
ี
้
ึ
้
่
ํ
่
ระบบซงก็ทาใหการกาหนดโทษมแนวโนมทีจะคงเส้นคงวาและเกิดความเสมอภาคได้มากยิงขึน รวมทังยังเป็น
้
กลไกททาใหผูพพากษาทํางานดวยความรับผิดรับชอบในระดบทสูงมากยงขึนไปอีก
ั
ํ
ิ
้
้
่
ี
ี
่
ิ
่
้
้
โดยสรุป โลกยุคดจิตอลสรางการเปลียนแปลงในหลายมต และในแทบทุกขันตอนของกระบวนการ
้
ิ
้
ิ
ิ
่
ั
่
ั
็
์
้
ุ
้
ยตธรรมซงสรางประโยชนทงในระดบบุคคล หนวยงาน รัฐบาล และสังคม ทงในดานการเพมความรวดเรว การ
ิ
่
ิ
ั
้
่
ึ
้
10 James, Nathan (2018).Risk and Needs Assessment in the Federal Prison System.
่
22 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย