Page 98 - Microsoft Word - PAAT Journal V5-2021-awt-v2
P. 98

PAAT Journal Vol. 3 No. 5, June 2021

                           จิตสํานึกเป็นพลังเบื้องลึกที่ยิ่งใหญ่ ที่ทําให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นได้ ที่กฎหมายทําให้เกิดขึ้นไม่ได้ เช่น เรื่อง

                    ความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ําระหว่างผิวดําผิวขาวในสหรัฐอเมริกา อันเป็นบาดแผลมาตั้งแต่ตั้งประเทศ
                    นําไปสู่สงครามกลางเมืองเมื่อ ค.ศ 1861 - 64 ที่มีคนตายไปถึง 620,000 คน มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและออก

                    กฎหมาย จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ แต่กําลังลุกลามเป็นความขัดแย้งระหว่างสีผิวอยู่ในปัจจุบัน
                    หลังจากคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ชื่อ George Floyd ถูกตํารวจคนขาวฆ่าตายที่เมืองมินนีแอโพลิส เรื่อง

                    นี้คงจะแก้ไม่ได้นอกจากมีการปฏิวัติจิตสํานึกดังที่ Laszlo Grof และ Russell ว่าไว้ในหนังสือชื่อ
                    “Consciousness Revolution”

                           ความขัดแย้งระหว่างศาสนา เช่น ระหว่างคริสต์กับอิสลาม หรือระหว่างยูดาห์กับอิสลาม หรือระหว่าง
                    ซุนนีกับชีอะห์ในอิสลามด้วยกัน หรือในทางระบบเศรษฐกิจ ระหว่างทุนนิยมกับคอมมิวนิสต์ เป็นเรื่องที่รุนแรง
                    มาก ไม่สามารถยุติได้ด้วยการใช้กําลังอาวุธ มีแต่จิตสํานึกใหม่อันนําไปสู่ความคิดองค์รวมแห่งการอยู่ร่วมกัน

                    เท่านั้น ที่จะนําไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติท่ามกลางความหลากหลาย
                           Contemplative Education หรือจิตตปัญญาศึกษา ก็เป็นศัพท์ใหม่ที่ใช้สําหรับการศึกษาที่นําไปสู่

                    จิตสํานึกใหม่
                           สังคมหลังโควิดควรจะศึกษาและปฏิบัติเพื่อการตื่นรู้ หรือเพื่อการเกิดจิตสํานึกใหม่กันให้มาก อันเป็น

                    ทางเข้าถึงสิ่งสูงสุด คือ ความจริง ความดี ความงาม จิตสํานึกใหม่จะเป็นพลังใหญ่ที่สุดที่นําไปสู่การเปลี่ยนใหญ่
                    เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสมดุลของมนุษยชาติ


                    6.   การคิดแบบองค์รวมความมุ่งประสงค์ (Purpose) ใหม่ของมนุษยชาติการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสมดุล

                              ในการปรับใหญ่หลังโควิค คือ การปรับจากการคิดและทําแบบแยกส่วน สู่การคิดและทําแบบ

                    องค์รวม การคิดแบบองค์รวมว่ามนุษย์และธรรมชาติทั้งหมดเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนมีชีวิตและ
                    ร่างกายเดียวกัน มนุษยชาติจึงต้องเปลี่ยนเป้าประสงค์ของชีวิต และการพัฒนาใหม่จากมุ่งเฉพาะตน เฉพาะ

                    ส่วน เป็นการอยู่ร่วมกัน (Living Together) อย่างสันติสมดุล นี้เป็นการเปลี่ยนใหญ่หมดทั้งโลก ตั้งแต่ชุมชน
                    เล็กๆ ไปจนถึงชุมชนขนาดใหญ่ และชุมชนโลก

                              ชุมชนคือระบบการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนกับคน และคนกับสิ่งแวดล้อม
                              ชุมชนขนาดเล็กสามารถจัดระบบการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลได้ง่าย ผู้คนมีความเสมอภาค ภราดร

                    ภาพ มีความสนิทสนมคุ้นเคยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เป็นสังคมที่มีความอบอุ่น เศรษฐกิจชุมชนก็สอดคล้องกับภูมิ
                    ประเทศและวัฒนธรรม ไม่มีความเหลื่อมล้ํามากเกิน มีวัดหรือศาสนสถานตามความเชื่อร่วมกันของชุมชน
                    สามารถจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ประชาธิปไตยชุมชนจึงเป็นประชาธิปไตยที่

                    ค่อนข้างสมบูรณ์ คือเป็นประชาธิปไตยทางตรงที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้เพราะชุมชนมีขนาดเล็ก มีประชาธิปไตย
                    ทางสังคม ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ และ ประชาธิปไตยทางจิตใจ (Spiritual democracy) ด้วย

                    นอกจากนั้นเศรษฐกิจชุมชนยังเป็นเศรษฐกิจที่มีภูมิคุ้มกัน เพราะเป็นเศรษฐกิจจริงที่เกิดจากการทํามาหากิน
                    ไม่วูบวาบพลิกผันวิกฤตง่ายเหมือนระบบเศรษฐกิจมหภาคซึ่งมีมายาคติอยู่มาก




                                                        91                     สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103