Page 319 - thaipaat_Stou_2563
P. 319

งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓






                       6.2 ควำมเข้ำใจที่มีต่อกำรไปใช้สิทธิเลือกตั้งของนักศึกษำ
                       การศึกษาความเข้าใจเกี่ยวกับการไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2562  วิเคราะห์
               ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage)
               สามารถอภิปรายผลได้ว่า ความเข้าใจในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพบูลสงคราม
                                                                                                ิ
               อยู่ในระดับน้อยที่สุด (ค่าเฉลี่ย 1.74) แสดงให้เห็นว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามมีความเข้าใจ
               ในเรื่องของการไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อยู่ในระดับที่น้อยมาก เนื่องจากว่าในการท า
                                                                                                       ่
               แบบสอบถามมีทั้งนักศึกษาที่อานค าถามแล้วคิดวิเคราะห์ก่อนลงมือท าแบบสอบถามและนักศึกษาที่ไม่อาน
                                         ่
                          ่
               ค าถามหรืออานแบบผ่านๆแล้วท าแบบสอบถาม(กาดิ่งลงมาแบบมั่วๆ)อกประการหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า
                                                                            ี
               แบบสอบถามที่ทางคณะผู้วิจัยได้ท าการคิดขึ้นมาอาจจะไม่ครอบคลุมในเรื่องของการไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง
                                                                                     ั
               ได้ทั้งหมด จากผลการศึกษาได้มีความสอดคล้องกับหลักแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการพฒนาประชาธิปไตย โดย
               พบว่านักศึกษายังขาดความเข้าใจในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งบวกกับประสบการณ์ในการไปให้สิทธิเลือกตั้งของ
               นักศึกษายังน้อยเพราะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของนักศึกษา จึงท าให้นักศึกษายังขาดความเข้าใจในระบอบ

                                                       ั
               ประชาธิปไตยอยู่มาก จึงจ าเป็นที่จะต้องมีการพฒนาให้นักศึกษาได้เข้าใจในมีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากขึ้น
                  ื่
               เพอเพมความเข้าใจให้กับนักศึกษา รวมถึงความเข้าใจในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของนักศึกษามหาวิทยาลัย
                     ิ่
                                                                 ั
               ราชภัฏพบูลสงครามจึงมีความสอดคล้องกับแนวคิดการพฒนาทางการเมือง เพอให้การเมืองมีความเป็น
                                                                                    ื่
                       ิ
               ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงได้ย่อมต้องอยู่กับการพฒนาการเมืองก็เป็นส่วนที่ส าคัญที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด
                                                         ั
               พฤติกรรมการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนเป็นส าคัญ จึงแสดงให้เห็นถึงคุณค่าในการพฒนา
                                                                                                     ั
               การเมืองไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยในสังคมได้อย่างแข็งขัน
                      นอกจากนี้ผลการศึกษายังพบว่าการที่นักศึกษาหรือประชนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมีแนวโน้มที่
               จะเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองผ่านการใช้สิทธิเลือกตั้งเพมมากขึ้น ท าให้ระดับการมีส่วนร่วมทางการเมือง
                                                                ิ่
               เพมขึ้นด้วย เนื่องจาก ระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองนั้นจะสูงหรือต่ าขึ้นอยู่กับว่าประชาชนในประเทศทุก
                 ิ่
               คนมีความรู้ความเข้าใจและให้ความสนใจต่อการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองมากน้อยแค่ไหน โดยถ้า
               ประชาชนในประเทศมีความรู้ความเข้าใจและให้ความสนใจต่อการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองมาก ระดับ
               การมีส่วนร่วมทางการเมืองก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดทฤษฎีในเรื่องของการมีส่วนร่วม

                                                                     ั
               ทางการเมือง และยังมีความสอดคล้องกับงานวิจัยของ นุกุล ชิ้นฟก และคณะ(2554, น.89) โดยพบว่าความ
               เข้าใจของบุคคลที่มีต่อการเมืองนั้นมีความส าคัญอย่างยิ่งต่อการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองของบุคคลนั้นๆ
               เนื่องจากว่าในการที่ประชาชนจะเข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้งและเลือกผู้แทนให้ตรงตามความต้องการของตนเองนั้น

               ประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจ าเป็นที่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการมีส่วนร่วมทางการ
               เมืองโดยเฉพาะในเรื่องของการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายและข้อก าหนดในการเลือกตั้ง เข้าใจนโยบายที่
               นักการเมืองแต่ละพรรคใช้ในการหาเสียง เป็นต้น และผลการศึกษาวิจัยยังมีความสอดคล้องกับงานวิจัยของ
               มานพ เข็มเมือง (2557, น.94) ในเรื่องของการที่ประชาชนผู้มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้แสดงให้

                                     ั
               เห็นถึงแนวโน้มของการพฒนาการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยผ่านการใช้สิทธิเลือกตั้งที่ประชาชนผู้มี
               สิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ความสนใจและเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
                      6.3 แหล่งที่มำของข้อมูลในกำรรับรู้ข่ำวสำรในกำรไปใช้สิทธิเลือกตั้งของนักศึกษำ
                                                                                                ิ
                      การศึกษาแหล่งที่มาของข้อมูลในการรับรู้ข่าวสารของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพบูลสงคราม
               พบว่ามาจากการศึกษาเล่าเรียนคิดเป็นร้อยละ 70.3 แสดงให้เห็นว่านักศึกษาส่วนใหญ่นั้นมีความเข้าใจในเรื่อง


                                                                                                     317
   314   315   316   317   318   319   320   321   322   323   324