Page 44 - PAAT_Journal_V1-2019
P. 44
PAAT Journal Vol. 1, No. 1, (June 2019)
30
การศึกษา Rathbone AL, Prescott J (2017) ; Vodopivec-Jamsek V, de Jongh T, Gurol-Urganci I &
31
Atun R, Car J, (2012) ; Shruta Rawat, et al.,
32
33
(2018) โดย Horvath T, Azman H, Kennedy GE & Rutherford GW, (2012) อธบายวา จากการ
ิ
่
้
้
ื
่
ี
ึ
ทดลองหนงครังในการส่งข้อความมอถือรายสัปดาห์ของเจาหน้าทจะมประสิทธภาพในการลดการแพร่ระบาด
่
ี
ิ
ื
ี
้
้
ุ
ั
่
ของเชอไวรัสเอชไอว ผูกําหนดนโยบายควรพจารณาโครงการจดหาเงินทนเพอเสนอการส่งข้อความ SMS เปน
ื
็
ิ
ิ
็
้
้
้
่
ื
รายสัปดาห์เพอใชเปนแนวทางในการส่งเสริมการรักษาดวยยาตานไวรัส รวมถึงคลินกและโรงพยาบาลควร
้
้
ิ
พจารณาใชโปรแกรมดังกล่าวดวย
สรุป
่
้
ี
้
ั
่
แมประเทศไทยจะมการเข้าถึงยาตานไวรัสตงแตป พ.ศ.2535 แตถือวาไมไดเปนนโยบายของรัฐบาล
่
้
่
ี
็
้
เนองจากเป็นการใหการสนบสนุนงบประมาณจากกองทุนโลกในการใหยาตานไวรัสผูตดเชอเอชไอวในประเทศ
้
้
้
ี
้
ั
่
ื
ิ
้
ื
้
่
้
ี
้
ี
้
้
ั
ั
ไทย แมตอมารฐบาลจะมนโยบายการเขาถึงการรกษาดวยยาตานไวรัสโดยมการใชงบประมาณจากภาครฐมาก
ั
ั
้
่
้
ื
ี
ี
้
ู
้
ขึนจนมพฒนาการทางนโยบายดวยการกําหนดใหการรักษาผตดเชอเอชไอวได้เข้าไปสูหลักประกันสุขภาพ
ิ
้
้
้
้
ี
ิ
่
่
้
่
ิ
้
ํ
้
่
้
แหงชาตส่งผลใหผูตดเชอเอชไอวไดเข้าถึงการรักษาโดยไมตองเสียค่าใชจายแตอยางใดทังสิน ทาใหคนยากจนม ี
้
่
้
ื
โอกาสในการเขาถึงยาตานไวรัสมากขนซงกอนหนานันยาตานไวรัสเอชไอวมราคาทีสูงมากจึงเปนอปสรรสําคัญ
ุ
้
็
่
ึ
้
่
ึ
้
้
ี
้
่
ี
้
้
ในการจํากัดการเขาถึงบริการสาธารณสุข ประเทศไทยถือวาประสบผลสําเร็จในการเรืองการเข้าถึงยาต้าน
่
่
ั
ไวรัสอยางมาก จนไดรับการรับรองจากองค์การอนามยโลก รวมถงเปน 1ใน 15 ประเทศแรกๆ โลกทไม ่
่
ี
่
้
็
ึ
ั
้
ิ
็
้
้
์
ิ
กําหนดค่าเมดเลือดขาวหรือค่าภูมคุมกัน (CD 4) ในการใหสิทธการไดรับการรักษาดวยยาตานไวรสเอชไอว ี
้
้
้
้
ั
้
่
(คณะกรรมการแหงชาตวาดวยการป้องกนและแกไขปญหาเอดส์, 2560: 17) กําหนดใหคนไทยทุกคนสามารถ
่
ิ
ั
้
่
ี
้
ตรวจเลือดไดปละ 2 ครัง ในสถานพยาบาลของรฐโดยไมเสียค่าใชจาย แมพฒนาการทางดานโยบายการ
้
่
ั
ั
้
้
30 Rathbone AL, Prescott J (2017). The Use of Mobile Apps and SMS Messaging as Physical and Mental
Health Interventions: Systematic Review. the Journal of Medical Internet Research. Aug 24;19(8):e295. doi:
10.2196/jmir.7740.
31 Vodopivec-Jamsek V, de Jongh T, Gurol-Urganci I, Atun R and Car J. (2012). Mobile phone messaging for
preventive health care. The Cochrane Database of Systematic Reviews. 12;12:CD007457. doi:
10.1002/14651858.CD007457.pub2.
32 Shruta Rawat, J Michael Wilkerson, Sylvia M Lawler, Pallav Patankar, BR Simon Rosser, Kanjani Shukla,
Seyram Butame, and Maria L Ekstrand. (2018). Recommendations for the Development of a Mobile HIV
Prevention Intervention for Men Who Have Sex With Men and Hijras in Mumbai: Qualitative Study. JMIR
Public Health and Surveillance. May 3. doi: 10.2196/publichealth.9088
33 Horvath T, Azman H, Kennedy GE & Rutherford GW. (2012). Mobile phone text messaging for promoting
adherence to antiretroviral therapy in patients with HIV infection. The Cochrane Database of Systematic
Reviews. Mar 14;(3):CD009756. doi: 10.1002/14651858.CD009756.
่
36 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย