Page 70 - Microsoft Word - PAAT Journal V3-2020-update by ap
P. 70
PAAT Journal Vol. 2, No. 3, June 2020
ิ
ิ
ื
่
์
ิ
ิ
ุ
หรือ นครศึกษา ในมตของการอนุรักษเมอง (Urban Conservation)ในหลายมต เชน การอนรักษ ์
ั
์
์
ิ
สถาปตยกรรมเมอง (Urban Architecture Conservation) การอนรักษภูมทศนวฒนธรรมเมอง (Cultural
ื
ื
ุ
ั
ั
่
ี
่
ื
Townscape Conservation) การอนุรักษเมองเพอการท่องเทยว (Urban Conservation for Tourism) การ
ื
์
บริหารเมองมรดก (Urban Heritage Administration) และ การกําหนดนโยบายเพออนุรักษเมองมรดก
์
ื
่
ื
ื
(Policy Process for Urban Heritage Conservation)จะเห็นไดว่าเป็นเนือหา (Content) และบริบท
้
้
ี
่
่
ึ
ิ
ั
ั
์
ั
่
ี
ั
ี
้
(Context) ทมความสมพนธกบทางรัฐประศาสนศาสตร์และรฐศาสตร์ ซงเหมาะสําหรับนักวชาการทสนใจดาน
ิ
้
ิ
์
้
ึ
่
ิ
้
นครศกษา ผูบริหารองคกรปกครองส่วนทองถิน ผูบรหารองค์กรปกครองส่วนภูมภาค และผูวางแผนภูมภาค
้
และเมอง (Regional and Urban Planner) ทีจะค้นควาและนาไปประยกตใชการทางานเปนอยางยง
้
่
ํ
่
้
์
ํ
็
ุ
ื
ิ
่
ื
ภาพรวมของหนังสอ
ุ
ื
ั
ั
ุ
หนังสือการอนรักษชมชนเมอง ของ ปรานอม ตนสขานนท จะถูกแบ่งออกเป็น 8 บท คือ บท
ุ
์
์
นา ลําดบความเป็นมาของการอนรักษ การวเคราะหองค์ประกอบเมอง การประเมินคุณคาสถาปตยกรรมและ
์
ุ
่
ํ
ิ
ั
์
ั
ื
ุ
ุ
์
่
่
ั
ื
์
ิ
ภูมทศน์เมอง การอนรักษกับการทองเทียว การวางแผนอนรักษ บทเรียนอนุรักษ์เมืองประวัติศาสตร์
ุ
่
์
่
ึ
้
่
่
้
้
ื
้
และบทสรุป ซงจะเหนวา ผูเขียนพยายามปูพนใหผูอานทีไมมความรดานนครศึกษาและการอนรักษพนท ี ่
ู
้
็
้
่
้
ื
ี
ั
้
ทางประวตศาสตรหรือพนทมรดก ไดเข้าใจและมความรูเปนพนฐานกอนทจะเขาสูทฤษฎีและความรู ้
่
ี
้
้
้
ื
ื
่
ิ
็
้
่
์
ี
่
ี
ี
ของการอนุรักษเมอง หลังจากนันผูเขียนไดพยายามชประเดนให้ผูอานเหนหลักการและวธการในการอนรักษ ์
้
ิ
้
่
้
์
ี
็
็
้
ื
้
ุ
ี
่
้
็
ั
ื
์
่
ี
ื
ึ
ิ
ั
้
์
เมองประวตศาสตร และผูเขียนไดตวอยางเมองประวตศาสตร์ทไดรบการอนรกษทงในกรณทเปนกรณีศกษา
้
ิ
ั
่
ั
ั
ั
้
ี
่
(Case Study) และ แนวทางปฏิบัติทีดี (Best Practice) คือ มหานครลอนดอน นครเกียวโตและนครเชียงใหม่
้
ั
็
้
่
ิ
้
้
่
่
้
้
็
ในส่วนสุดท้ายก็จะเปนบทสรุปใหผูอานเห็นถึงข้อสงเกตและขอคดเหนใหผูอานไดคิดตอถึงแนวทางในการ
ื
์
้
ุ
ั
้
ื
อนรักษเมองประวตศาสตร์บนพนฐานของขอจากัดทางสังคม
ํ
ิ
ํ
ื
ิ
ในส่วนของบทนาผูเขียนได้พยายามนําเสนอคุณค่าของเมองในหลายมต เช่น มิติ
ิ
้
ิ
ิ
ิ
้
ี
ั
ื
์
ิ
ของประโยชนใชสอย มตทางวฒนธรรมและมตทางจตใจ นอกจากนผูเขียนไดอธบายลักษณะของเมอง
้
ิ
ิ
้
้
ุ
ิ
้
ุ
่
์
ิ
ั
ั
ประวตศาสตร์ คณค่าของเมองประวตศาสตร และระดบของการอนรักษเมอง เพอเชอมโยงให้ผูอานไดเหน
ื
่
์
ื
ั
้
ื
็
ื
่
์
ั
ความสาคญของเมองกบมนษย ในส่วนของบทที 2 ผูเขียนได้อรรถาธิบายถึงความเป็นมาของการอนุรักษเมือง
ํ
้
ื
ั
ุ
่
์
ิ
ั
ประวตศาสตร โดยไดอธบายถงประวตศาสตร์ของการอนรักษในระดับสากล พฒนาการทางความคิดและ
ึ
ิ
ุ
ั
์
์
ั
ิ
้
ึ
่
ทฤษฎีในการอนุรกษ ประวตศาสตร์และพฒนาการแนวคิดในการอนรักษของไทย ซงจะเหนไดวาในส่วนของ
ั
์
้
่
ั
ุ
ิ
์
ั
็
่
้
้
้
บทที่ 1 และ บทที 2 ของหนังสือจะเป็นการปูพืนฐานให้ผูอ่านได้มีความรูและความเข้าใจเกียวกับเมืองและการ
่
้
ื
้
ื
็
์
ุ
อนรักษเมอง เพอเปนพนฐานในการทําความเข้าใจเนอหาในบทถัดไป
ื
่
ื
ื
ี
่
์
ี
ตงแตบทท 3 ถึง บทท 6 เปนเนอหาทีกล่าวถึงวธการอนรักษเมองประวตศาสตร์
ั
ิ
้
่
่
ั
้
ื
ุ
่
็
ิ
ี
์
ิ
่
โดยบทท 3 จะกล่าวถึงการวเคราะหองค์ประกอบของเมอง โดยผูเขียนได้ให้แนวทางในการวิเคราะห์พืนฐาน
้
ี
ื
้
่
ี
ิ
ี
่
ั
ั
่
่
ื
และปจจยทประกอบขนเป็นเมองในแตละแหงทมความแตกตางกน เชน การประเมนคุณภาพ
ั
่
ี
ึ
่
้
์
ิ
ํ
ของเมอง การประเมนองค์ประกอบของเมอง เปนตน เพอนาองคประกอบของเมืองมาร่วมกนพจารณา
้
ื
็
ิ
ั
ื
ื
่
ในการอนรักษเมองในขันตอนตอไป ในบทถดมาไดกล่าวถง การประเมินคุณค่าสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ ซึง ่
ั
ึ
่
้
้
ุ
ื
์
่
62 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย