Page 38 - PAAT_Journal_V1-2019
P. 38
PAAT Journal Vol. 1, No. 1, (June 2019)
วในภูมภาคเอเชยตะวนออกเฉียงใตรวมกัน (World Health Organization, 2006: 7) นับตงแตรัฐบาลไดม ี
ิ
23
ี
้
ั
ี
ั
่
้
้
ุ
่
ิ
์
่
ั
้
้
่
นโยบายผนวกยาตานไวรัสเข้าสูชดสิทธประโยชนระบบหลักประกนสุขภาพถวนหน้า โดยไมเสียค่าใชจายใน
้
้
ั
้
ี
่
่
ี
้
ั
้
้
่
้
็
ื
ิ
้
การเขาถึงการรักษาตงแตป 2548 เปนตนมา พบวา ผูตดเชอเอชไอวทีไดรับยาตานไวรัสในระบบหลักประกน
้
่
้
ั
่
สุขภาพท่วหน้ามีจํานวนเพิมขึนเรือยๆ จาก 98,109 รายในปี 2551 เพิมขึนเป็น 150,125 รายในปี 2554
่
่
้
้
ี
้
็
่
้
จนกระทังมาถึงปี 2555 มผูไดรับยาตานไวรัสถึง 162,455 ราย ผูใหญ 156,725 ราย คิดเปนร้อยละ 96.5 และ
็
เปนเดกจานวน 5,730 ราย
ํ
็
ี
ั
ั
จนมาถึงป 2549 มการกาหนดการเขาถึงบริการยาตานไวรัสเอชวใหอยในระบบหลกประกนสุขภาพ
้
ู
้
ี
ํ
ี
้
่
้
่
ทวหนา (สําหรับผูติดเชือเอชไอวี ทีเป็นคนไทย และมีหมายเลข 13 หลัก) นอกจากนีในช่วงปี 2550-2557 มี
ั
้
่
้
้
การใหกําหนดการเขาถึงการบริการดวยยาตานไวรัสเอชไอวกับผูทอยนอกสิทธระบบประกันสุขภาพตางๆ ซง ึ ่
่
้
ี
้
้
่
่
ิ
ู
ี
้
้
่
้
ี
็
เปนงบประมาณทีไดรับการสนับสนุนจากกองทนโลก โดยมการขยายการสนบสนุนจากโครงการกองทุนโลก
ั
ุ
่
ี
่
ตอเนือง ระยะท 1 ในระหว่างป 2552-2554 และการให้การสนบสนนในระยะที 2 ในระหว่างป 2554-2557
ุ
่
ี
่
ั
ี
้
ื
ี
ี
อกดวย แตในระหว่างป 2553-2555 มการปรับเปลียนนโยบายการใหการรกษาด้วยยาตานไวรัสเมอระดบ CD
้
่
่
ั
ี
้
่
ั
่
้
ี
้
่
ํ
4 นอยกวา 350 เซลล์/มม. ซงเกณฑ์ทไดรับอทธพลมาจากการที WHO ไดแนะนา เมอป 2553 ใหประเทศ
้
ิ
ึ
ี
้
่
ื
่
ิ
่
้
่
้
่
ตางๆ ทัวโลก ควรทีจะให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีแก่ผูติดเชือเอชไอวี (Pascal, David, Salal and Till, 2015: 2)
่
ี
่
ิ
้
้
ส่งผลให้มความครอบคลุมการรักษาด้วยยาตานไวรัสเพมขึนเป็นร้อยละ 70
นโยบายรัฐบาลปัจจุบันในยุคดิจิทล
ั
้
ี
ู
ิ
้
นโยบายการเขาถึงระบบบริการสาธารณสุขของไทยดวยการให้ยาตานไวรัสเอชไอวและการดแลผูตด
้
้
ื
่
ี
็
้
่
ั
ุ
ี
เชอเอชไอวรัฐบาลแตละชดตางกไดมการดาเนินการแตกตางกนออกไป แต่ก็มิได้มีการยกเลิกนโยบายดังกล่าว
ํ
่
้
แตประการใด ตรงกนข้ามกลับมการดาเนนนโยบายกนอยางตอเนอง แมอาจจะมการปรับเปลียนบางส่วนของ
่
่
้
ื
่
่
ี
ี
ิ
ํ
ั
ั
่
่
นโยบายไปบางก็ตาม นโยบายการเข้ายาต้านไวรัสเอชไอวก็ยงคงมการดาเนนการเรอยมาจนมาถึงป 2557
ั
้
ี
ื
ี
ี
ํ
ิ
้
ุ
้
ี
์
ิ
รัฐบาลไดมมตคณะรัฐมนตรีให้คนไทยทุกคนสามารถไดรับยาต้านไวรัสโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในทกสิทธิการรักษา
่
ั
ั
้
์
ิ
้
ิ
ุ
ครอบคลมตามหลกประกันสุขภาพแหงชาต ประกอบไปดวย สิทธประกนสุขภาพทวหนาหรือบตรทอง สิทธ ์ ิ
ั
่
ั
ิ
ั
ิ
่
้
ํ
ประกนสังคม สิทธข้าราชการและรัฐวสาหกิจ) โดยกาหนดใหคนไทยทุกคนสามารถตรวจเลือดได้โดยไมเสีย
้
่
้
ุ
ค่าใชจายปละ 2 ครัง ณ โรงพยาบาลของรัฐทกแห่งทัวประเทศ ซึงประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศแรกใน
ี
่
่
่
้
้
ุ
ภูมภาคเอเชยและแปซฟกทให้ยาตานไวรัสแก่ผูตดเชอเอชไอว โดยไมคํานงถึงเมดเลือดขาวหรือภูมคมกัน (CD
ี
็
้
ึ
ิ
ิ
่
ี
ิ
ี
ิ
ิ
ื
้
ั
ิ
้
้
ึ
ั
ั
4) ตงแตป 2557 ตามมตคณะรฐมนตรีดงกล่าวดวย ซ่งการดําเนินนโยบายการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีและการ
่
ี
ู
้
ุ
้
่
ี
้
ื
ิ
ดแลรักษาผูตดเชอเอชไอวของประเทศไทยได้รับอทธพลมาจากองค์การสหประชาชนทมเปาหมายทจะยต ิ
่
ี
ี
ิ
ิ
ี
ปญหาโรคเอดส์ทเรียกวา “Ending AIDS” ใหไดภายในปีค.ศ.2030 (พ.ศ.2573) โดยมการเร่งใหเกิดขึนเร็วขึน
ี
้
ั
้
้
้
้
่
ี
่
ั
่
ิ
ี
่
้
ในป 2020 ซงประเทศไทยไดนํามาสูการปฏิบต เรียกวา ยุทธศาสตร์เป้าหมาย 3 ลด ในปี 2573 คือ 1) ลดผู ้
่
ึ
23 World Health Organization, 2006. Progress on Global Access to HIV Antiretroviral Therapy A Report on
“3 by 5” Beyound March 2006. Switzerland: World Health Organization.
่
30 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย