Page 12 - PAAT_Journal_V2-2019
P. 12
PAAT Journal Vol. 2, No. 2, December 2019
ิ
์
ุ
ิ
่
ํ
ั
้
ี
ิ
ตารางท 1: คาจํากดความของการวเคราะหเนือหาในการวจัยเชงคณภาพ
ิ
้
ํ
ํ
ผูเขียน/ปีทพมพ์ คาจากดความ
ั
ี
่
่
ั
ึ
ิ
้
ิ
ื
ี
Hsieh & Shannon, 2005, วธการวจยแบบหนงในการตความแบบนามธรรมของเนอหาของข้อมลท ี ่
ี
ู
p. 1278., cited in Zhang & เปนข้อความผ่านกระบวนการจาแนกทเปนระบบดวยการลงรหส
้
ั
่
ี
็
ํ
็
Wildermuth, 2005, p. 1. (Coding) และการกาหนดหวข้อหลัก (Themes) หรือแบบแผน
ํ
ั
(Patterns)
ิ
ี
่
ิ
ี
์
์
ิ
ิ
Mayring, 2000, p. 2. cited วธการเชงประจกษทควบคุมโดยระเบยบวธในการวเคราะหข้อความภายใน
ั
ี
ี
ั
in Zhang & Wildermuth, บริบทของการสือสารตามกฎและขันตอนทีละขนตามแบบจาลองของการ
่
ํ
้
้
ื
้
ิ
้
่
ั
2005, p. 1. วเคราะห์เนอหาโดยไมใชตวเลขอธบาย
ิ
ู
้
Patton, 2002, p. 453. การลดทอนขอมลเชงคุณภาพและความพยายามสรางความสมเหตสมผลที ่
้
ิ
ุ
ิ
cited in Zhang & ใชข้อมลเชงคุณภาพจานวนมากและพยายามทีจะกาหนดความคงเส้นคงวา
ู
่
ํ
้
ํ
Wildermuth, 2005, p.1. และความหมายหลัก
่
ทมา: Zhang & Wildermuth, 2005. Qualitative Analysis of Content. Psychology. Online
ี
available at: https://www.ischool.utexas.edu/~yanz/Content_analysis.pdf: retrieved 5
March 2020.
็
ิ
ื
้
ิ
ั
ิ
ื
็
์
้
่
จากตารางที 1 จะเหนวาการวเคราะห์เนอหาในการวจยเชิงคุณภาพเปนการวเคราะหตวเนอหาของ
่
ั
์
่
่
่
ู
็
ึ
้
่
สารหรือข้อความทีมนุษยใชในการสือสารกันซงอาจจะปรากฎในรปแบบตาง ๆ กันโดยเปนการลดทอนปริมาณ
่
ู
ข้อมลจากขนาดใหญลงมาเป็นหน่วยของความหมายทมขนาดเล็ก เปนการวเคราะหทไมใชตวเลขหรือสถิติ
ี
์
ี
้
ิ
่
่
ี
ั
่
็
ิ
ํ
ั
่
ี
โดยทวไปแล้วจะมกระบวนการในการวเคราะห์ประกอบดวย การลงรหส (Coding) และการกาหนดหัวข้อหลัก
้
ั
ึ
ิ
(Themes) หรือแบบแผน (Patterns) ซงจะไดอธบายในตอนตอไป
่
้
่
้
่
ิ
3. หลกการและกระบวนการทัวไปของการวเคราะห์เนือหา
ั
หลักการทสําคญของการวเคราะหเนือหาโดยทวไปนน Erlingsson & Brysiewwicz (2017, p. 94)
่
ั
้
ิ
ั
์
้
่
ี
ั
ไดอธบายไวดงตอไปนี
ิ
้
้
้
ั
่
วตถุประสงคทสําคัญของการวเคราะหเนอหาเชงคุณภาพคือการแปลงรูป (Transform) เนอหาสาระ
ี
่
์
์
ื
้
ิ
ื
ิ
้
ั
ี
่
่
ี
็
่
ของขอมล (Text) ทีมปริมาณมากอยางเปนระบบไปสูข้อสรุปทสําคัญ (Key Results) ทมการจัดระเบียบ
ี
่
ี
้
่
ู
่
์
(Organized) และมความกระชบ (Concise) อยางสูง เปนการวเคราะหข้อมลดบทมาจากเอกสารทีถอดเทปมา
ิ
ั
่
็
ู
ี
ี
่
ิ
่
ั
์
่
่
ื
ํ
จากการสัมภาษณแบบคาตอคํา (Verbatim) เพอสร้างหวข้อเรืองระดบรอง (Categories) หรือ หวข้อเรือง
่
ั
ั
ู
ั
่
่
็
หลัก (Themes) อนเปนกระบวนการเพือกําหนดสาระสําคัญเพมเตมทเปนนามธรรมของขอมลในแตละ
ิ
็
้
่
ิ
ี
่
่
้
์
่
่
ิ
ขันตอนของการวเคราะห กล่าวคือ จากสิงทีเห็นประจักษ์ (Manifest) และเนือหาทีปรากฏตามตัวอักษร
้
ู
่
(Literal Content) ไปสูความหมายทแฝงเร้นอย (Latent) ภายในข้อมลนน
่
ี
่
้
ู
ั
่
ื
็
้
้
ํ
ึ
ั
้
เพอใหเหนภาพในกระบวนการทีชดเจนขน Erlingsson & Brysiewwicz (2017) ไดนาเสนอส่วน
่
้
ั
ิ
สําคัญในการดาเนนการวเคราะหเนอหาโดยทวไปสีประการซงสามารถสรุปไดดงทแสดงไวในตารางท 2
่
ํ
ี
ี
่
่
่
้
ั
ึ
ิ
่
์
้
ื
4 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย
่