Page 61 - Microsoft Word - PAAT Journal V4-2020
P. 61
PAAT Journal Vol. 2, No. 4, December 2020
2. ความไม่แน่นนอน (Uncertainty) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคาดการณ์ได้ยาก
ทําให้ทําการพยากรณ์ได้ยาก ส่งผลเกิดเหตุการณ์ที่ทําให้เราแปลกใจอยู่บ่อยๆ และเรื่องที่คิดว่าจะเกิดขึ้นอย่าง
แน่นอนอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ เป็นต้น
3. ความซับซ้อน (Complexity) ประเด็นต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะมีความ
ซับซ้อนมากกว่าในอดีต นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจะมีความเชื่อมโยงกับทุกภาคส่วนในสังคม
4. ความคลุมเครือ (Ambiguity) การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะเป็นที่
ไม่ชัดเจน ยากที่จะคาดเดา นอกจากนี้ยังสามารถตีความได้หลายอย่างและหลายลักษณะ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้ง 4 ประการเป็นสิ่งมนุษยชาติจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น มนุษย์จึงต้องรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับคํากล่าวที่ว่า “ความเสี่ยงสุดยิ่งใหญ่
คือการไม่ทําอะไรเลย” ซึ่งเป็นคํากล่าวของโรเบิร์ต โทรุ คิโยซากิ (Robert T. Kiyosaki) นักธุรกิจ
และนักเขียนชาวอเมริกัน
การที่มนุษย์จะอยู่รอดภายใต้สถานการณ์ความปรกติใหม่ที่มีปัจจัยทั้งสี่ประการนี้
เราสามารถจําลองเป็นแผนภาพได้ดังนี้
1. สถานการณ์ที่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้า 2. สถานการณ์ที่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้า
ได้ (Know Know) ได้บางส่วน (Know Unknow)
การบริหารความเสี่ยง
การจัดการความรู้ การวิจัย
3. สถานการณ์ที่พยากรณ์ล่วงหน้าได้แต่จํา 4. สถานการณ์ที่พยากรณ์ล่วงไม่ได้เลย
ไม่ได้ (Unknow Know) (Unknow Unknow)
ภาพที่ 1 แผนภาพแสดงสถานการณ์ก่อนและหลังความปรกติใหม่
จากแผนภาพการวางแผนในสถานการณ์ต่างๆ สามารถแบ่งได้ 4 ลักษณะ คือ
1. สถานการณ์ที่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้ (Know Know) เป็นสถานการณ์
ในภาวะปรกติหรือสถานการณ์ก่อนมีการระบาดของโรค COVID – 19 การวิเคราะห์ การประเมิน
หรือการพยากรณ์สถานการณ์ต่างๆ สามารถทําได้โดยใช้ความรู้ในอดีตมาเป็นฐานในการวิเคราะห์
2. สถานการณ์ที่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้บางส่วน (Know Unknown)
เป็นสถานการณ์ในภาวะปรกติหรือสถานการณ์ก่อนมีการระบาดของโรค COVID – 19 เป็นสถานการณ์
52 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย