Page 64 - Microsoft Word - PAAT Journal V4-2020
P. 64

PAAT Journal Vol. 2, No. 4, December 2020

                    ออนไลน์เท่าใดนัก ได้แก่ ด้านมหาวิทยาลัยนั้น อาจารย์ในมหาวิทยาลัยหลายคนยังไม่สามารถจัดการเรียน

                    การสอนออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการสอนออนไลน์ไม่ควรที่จะเป็นการสื่อสารทางเดียว
                    คือ อาจารย์พูดกับกล้อง แต่อาจารย์ต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับนักศึกษา คือ การสื่อสารสองทาง

                    ดังนั้นอาจารย์มหาวิทยาลัยจึงต้องดําเนินการสร้างปฏิสัมพันธ์กับนักศึกษาระหว่างจัดการเรียนการสอน
                    ออนไลน์ ติดตามความเข้าใจและให้คําปรึกษานิสิตหลังการเรียนการสอน สร้างชุมชนการเรียนของนักศึกษา

                    สร้างการทํางานกลุ่มในลักษณะออนไลน์ เป็นต้น
                                 ส่วนในด้านนักศึกษานั้นส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมที่เรียนกับระบบออนไลน์ เนื่องจากขาดอุปกรณ์

                    ในการเรียนออนไลน์ คือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต นอกจากนี้นักศึกษายังขาดการเข้าถึงระบบ
                    อินเตอร์เน็ตที่รองรับการเรียนออนไลน์ได้ นอกจากนี้รูปแบบการเรียนออนไลน์มีความแตกต่างจากการเรียน
                    ในห้องคือ การเรียนในห้องเรียนนั้น นักศึกษาฟังอาจารย์ในห้องแล้วจด หลังจากนั้นนักศึกษาก็จะไป

                    ทําความเข้าใจบทเรียนนอกห้องเรียน แต่รูปแบบการเรียนออนไลน์นั้น นักศึกษาต้องไปเตรียมตัวค้นคว้า
                    หาความรู้จากนอกห้องเรียนมาก่อน เมื่อเข้ามาเรียนในห้องเรียนออนไลน์นักศึกษาจึงนําเนื้อหาบทเรียน

                    มาซักถามกับอาจารย์ ซึ่งระบบแบบนี้นักศึกษาของไทยยังไม่คุ้นเคย ดังนั้นการเรียนออนไลน์ของไทยอาจจะไม่
                    ประสิทธิภาพเท่าที่ควร

                                 จากรายงานของ WEF Global Competitiveness Report 2019 พบว่า ประเทศไทย
                    มีศักยภาพในการแข่งขันระหว่างประเทศอยู่ในลําดับที่ 40 ได้คะแนน 68 คะแนนจาก 100 คะแนน

                    แต่เมื่อศึกษาในรายละเอียดพบว่า มีดัชนีบางตัวประเทศไทยได้คะแนนสูงมาก เช่น ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
                    ระดับมหภาค (Macro-economic Stability) ได้ลําดับที่ 43 ได้ 90 คะแนนจาก 100 คะแนน และ ศักยภาพ
                    ทางการบริการสาธารณสุข (Health) ได้ลําดับที่ 38 ได้ 89 คะแนน จาก 100 คะแนน เป็นต้น ซึ่งเป็นดัชนี

                    ที่บ่งบอกว่า ระบบการบริหารงานภาครัฐของไทยมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถ
                    รับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรค COVID – 19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ดัชนีบางตัว

                    ของประเทศไทยก็ได้คะแนนต่ํา เช่น ความสามารถในการแข่งขันของหน่วยงานภาครัฐ (Institution) ได้ลําดับ
                    ที่ 67 ได้ 55 คะแนน จาก 100 คะแนน เป็นการบ่งบอกว่า การบริหารประสิทธิภาพในหน่วยงานภาครัฐ

                    ยังไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร เช่น ระบบสารสนเทศในภาครัฐ เป็นต้น
                                 ระบบราชการยังเป็นระบบที่ต้องใช้ระบบเอกสารที่เป็นกระดาษในหลายส่วน เช่น การติดต่อ

                    ประชาชนยังต้องใช้สําเนาบัตรประชาชน การทําธุรกรรมกับภาครัฐต้องกรอกแบบฟอร์มหลายฉบับ หน่วยงาน
                    เก็บเอกสารกระดาษไว้เพื่อป้องกันการตรวจสอบ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าเป็นการบริหารงาน
                    ที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งจากการจัดลําดับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ใน พ.ศ. 2560

                    พบว่า ประเทศไทยอยู่ในลําดับที่ 73 ของโลก และ ลําดับที่ 4 ในอาเซียน ซึ่งถือว่าอยู่ในลําดับที่ต่ํา นอกจากนี้
                    ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ที่กําหนดให้สามารถใช้เอกสาร

                    อิเล็กทรอนิกส์แทนเอกสารกระดาษ สามารถใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แทนลายเซ็นด้วยมือ การใช้สัญญา
                    อิเล็กทรอนิกส์ พยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ และการเก็บเอกสารหลักฐานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ระบบ

                    เหล่านี้หน่วยงานภาครัฐของไทยยังใช้อยู่ในวงจํากัด

                                                        55                     สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69