Page 104 - thaipaat_Stou_2563
P. 104
งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓
2. งานจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุ ร้อยละ 20 ของจ านวนตัวอย่างขั้นต่ าที่ต้องเก็บในหน่วยงาน
นั้น
3. งานสนับสนุน ร้อยละ 15 ของจ านวนตัวอย่างขั้นต่ าที่ต้องเก็บในหน่วยงาน
นั้น
4. งานอื่น ๆ ร้อยละ 5 ของจ านวนตัวอย่างขั้นต่ าที่ต้องเก็บในหน่วยงานนั้น
เครื่องมือกำรประเมิน
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ใช้ตามที่ส านักงาน ป.ป.ช.ก าหนด ประกอบด้วย เครื่องมือ 3 แบบ
โดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบการประเมินมีรายละเอียด ดังนี้
1) แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้เสียภายใน (Internal Integrity and Transparency Assessment : IIT
) เป็นการประเมินระดับการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในที่มีต่อหน่วยงานตนเอง ในตัวชี้วัดการปฏิบัติ
หน้าที่ การใช้งบประมาณ การใช้อานาจ การใช้ทรัพย์สินของราชการ และการแก้ไขปัญหาการทุจริต โดยให้
บุคลากรภายในหน่วยงานทั้งหมดที่ท างานในหน่วยงานของรัฐที่เข้าร่วมการประเมินมาเป็นระยะเวลาไม่น้อย
กว่า 1 ปี เป็นผู้ตอบแบบประเมินดังกล่าว
2) แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้เสียภายนอก (External Integrity and Transparency Assessment : EIT)
เพอเป็นการประเมินระดับการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกที่มีต่อหน่วยงานที่ประเมิน ในตัวชี้วัด
ื่
คุณภาพการด าเนินงาน ประสิทธิภาพการสื่อสาร และการปรับปรุงระบบการท างาน โดยให้บุคคล นิติบุคคล
หรือหน่วยงานรัฐอนที่มารับบริการหรือมาติดต่อภารกิจของหน่วยงานของรัฐที่เข้าร่วมการประเมินใน
ื่
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 เป็นผู้ตอบแบบประเมินดังกล่าว
3) แบบตรวจการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (Open Data Integrity and Transparency Assessment :
OIT) เป็นการประเมินระดับการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะของหน่วยงานของรัฐที่เข้าร่วมการประเมิน ที่
ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ในตัวชี้วัดการเปิดเผยข้อมูล และการป้องกันการทุจริต (Anti – Corruption
Practice)
วิธีกำรประเมิน
วิธีการประเมินใช้หลักการวิจัยเชิงประเมิน แบบประเมินผลสรุปการด าเนินงานของหน่วยงานภาครัฐใน
จังหวัดเชียงราย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มีวิธีการดังนี้
1) การส ารวจวิจัยเอกสาร มุ่งเน้นสาระส าคัญที่เป็นข้อมูลพนฐานในประเมินคุณธรรมและความ
ื้
โปร่งใสในการด าเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ
2) ท าความเข้าใจระบบและการเข้าใช้งานระบบ ITAS
102