Page 19 - PAAT_Journal_V2-2019
P. 19
PAAT Journal Vol. 2, No. 2, December 2019
็
่
่
ี
่
่
่
ี
ู
ี
็
ี
ข้อจํากัดในประเดนทไมไดให้ความสนใจในความหมายทกวางขวางทปรากฏอยในข้อมล มประเดนเกียวกับ
ู
้
้
่
่
้
ั
ื
่
้
่
ี
ี
ิ
ิ
่
ื
ความนาเชอถือทตององกับ การมความน่าเชอถือ (Credibility) มากและอาจก่อใหเกดปญหาความสอดคลอง
้
ระหวางตวข้อมลกับการตความหมาย (Hsieh & Shannon, 2005)
ู
ี
ั
่
ี
ประเดนทสําคญอกประการหนงคือการวเคราะหเนอหาทังสามแบบนีสามารถดาเนนการไดโดยการ
ั
่
ึ
ิ
ื
ํ
์
ิ
็
ี
้
้
้
้
่
ํ
กระทาดวยมอ (Manual) โดยใชโปรแกรมคอมพวเตอร์ (Computer-Aided Qualitative Data Analysis
ื
ิ
้
้
ี
ู
่
ึ
่
ี
Software: CAQDAS) แบบตาง ๆ ชวยในการวิเคราะห (จําเนยร จวงตระกล, 2562) ซงมรายละเอยดเฉพาะ
ี
์
่
่
ในแตละโปรแกรม นกวจัยสามารถเลอกใชไดตามความจําเป็นหรือเหมาะสม เช่น การใช้โปรแกรม Atlas. ti
ิ
ื
้
ั
้
ิ
้
ื
็
(พนโย พรมเมอง, มปป. ออนไลน์) เปนตน
ิ
6. ปัญหาและขอควรคานึงในการใชการวเคราะห์เนือหาในการวจัยเชงคณภาพ
้
้
ํ
ุ
้
ิ
ิ
์
ู
่
ั
ิ
้
ี
่
ิ
ิ
์
้
ิ
ั
้
ี
ิ
ั
ในการใชการวเคราะหเนือหาในการวเคราะหข้อมลการวจยเชงคุณภาพนันมปัญหาทสําคัญทีนกวจย
ื
้
้
ิ
่
ึ
ควรคํานงทีสําคญหกประการดังตอไปนี (1) ประเภทของการวจย ดงไดกล่าวมาแลว การวเคราะหเนอหา
้
ั
์
่
้
ิ
ั
ั
้
ี
ิ
่
้
ี
์
ั
ิ
ิ
้
้
ั
สามารถใชไดกับทงานวิจยเชงปริมาณ และการวจยเชงคุณภาพ ซงรูปแบบหรือวธการวเคราะหเนอหาทใชกับ
ิ
ี
่
ื
่
ึ
ิ
้
้
ั
ิ
การวจยเชงปริมาณกบทใชกับการวจยเชงคุณภาพนันแตกตางกน นกวจัยตองทาความเขาใจรูปแบบหรือ
้
ั
ํ
ิ
ิ
ี
ั
ิ
้
่
ิ
ั
่
ั
ิ
้
ิ
ี
ื
ิ
ิ
ี
ั
์
วธการวเคราะห์เนือหาแตละแบบใหชดเจนและเลือกใชรูปแบบหรือวธการวเคราะหเนอหาให้ถูกตองเหมาะสม
้
้
้
้
่
ี
ิ
ั
ั
ิ
กับประเภทของการวจัย (2) ประเภทของยุทธศาสตร์การวจย การวจยเชงคุณภาพมยทธศาสตรการวจยท ี ่
ิ
์
ั
ุ
ิ
ิ
ั
ิ
ู
้
์
่
ี
้
ั
์
ิ
ี
ี
่
้
่
หลากหลายและในแตละยทธศาสตรนนก็มวธการขนตอนรวมทังกระบวนการวเคราะหข้อมลทแตกตางกันไป
ุ
ั
ื
่
่
ี
ุ
ิ
ิ
ตามประเภทของยทธศาสตร์การวจย เชน การวิจัยเพอศึกษาชวประวตหรือการบรรยาย (Biography or
ั
ั
ิ
ิ
Narrative) การวจยเพอศึกษาปรากฏการณ์ (Phenomenological Study) การวจัยแบบการศึกษาเพอสร้าง
่
ื
ื
่
ึ
ทฤษฎี (Grounded Theory) การวจยวฒนธรรม (Ethnographic Study) หรือการวจัยแบบกรณีศกษา (Case
ิ
ั
ิ
ั
้
ิ
ุ
็
้
์
ู
ี
ี
Study) ลวนแตมวธการ ขันตอน และกระบวนการวิเคราะหข้อมลเปนของตนเอง และในแตละยทธศาสตร์การ
่
่
ี
ี
่
วจยก็ยงมวธการขนตอนและกระบวนการวเคราะห์ข้อมลทแตกตางกันออกไปหลายรปแบบหลายวิธการอก
ู
่
ี
ิ
ี
ิ
ี
ั
ั
ั
้
ิ
ู
้
ั
ื
้
์
่
็
ิ
ี
้
ิ
้
้
ดวย นักวจยจําเปนตองศึกษาและทําความเข้าใจเพอเลือกใชวธการวเคราะหเนือหาใหถูกตองเหมาะสมกับ
้
ิ
่
ั
ี
ิ
้
์
ิ
้
ิ
ยทธศาสตรการวิจยทีเลือกใชในโครงการวจัยของตน (3) ผูมส่วนไดส่วนเสยในโครงการวจัย การวเคราะห ์
ุ
ี
้
ุ
้
็
้
้
ี
่
ี
เนือหายงไมเปนทรับรูอยางกวางขวางมากนกในหมผูมส่วนไดส่วนเสียในโครงการวจย เชน บคลากรของ
่
ั
ั
ั
้
้
่
่
่
ิ
ู
ั
ิ
้
ุ
่
ั
่
ิ
้
หนวยงานทีใหทนการวจย คณะกรรมการกากับทศทางการวจย คณะกรรมการตรวจรับงาน รวมทงผูใชงาน
ิ
้
ํ
้
ั
ิ
ิ
ั
ุ
ั
ิ
่
ิ
ิ
ี
้
่
ี
ั
ุ
่
ี
์
ั
วจยสวนใหญยงไมมความคนเคยกับวธการวเคราะหข้อมลการวจยเชิงคณภาพเชงคุณภาพมากนก จึงมความ
ู
ิ
ั
ั
ั
็
ิ
้
้
่
ี
ั
ํ
ิ
ํ
ิ
้
จาเปนทนกวจยจะตองเขียนข้อเสนอโครงการวจัยใหชดเจนรวมทังนาเสนอโครงการวจยตลอดจนใชวธการตาง
้
่
ี
ิ
้
ั
ั
ี
้
้
ั
ื
่
ื
ั
ิ
้
้
ๆ เพอสรางความผูกพนและความเข้าใจของผูมส่วนไดส่วนเสียในโครงการวจยนนอยางทัวถึงเพอใหนกวจย
่
ั
่
่
ิ
้
่
สามารถดาเนนการวจยโดยไดรับความรวมมอและสนับสนุนการดาเนนการวจยรวมทังเพอเปนการสรางการ
ํ
ื
ิ
้
ั
้
ิ
ั
็
ํ
ื
ิ
่
ี
ยอมรับผลการวจัยของนกวจยอกดวย (4) ขนาดของโครงการและระยะเวลารวมทังทรัพยากรของโครงการวจย
ิ
ั
้
ั
้
ั
ิ
ิ
้
ิ
้
ิ
ั
้
่
ั
ํ
การวเคราะห์เนือหาเป็นกระบวนการทใชเวลา นักวจยจาเปนตองวางแผนการวจยโดยจดสรรเวลาในส่วนของ
ิ
ี
็
ั
การวเคราะหข้อมลการวจยเชงคุณภาพให้เหมาะสมกับขนาดของโครงการ ลักษณะหรอความสลับซบซอนของ
ั
ิ
ิ
ู
์
ิ
ื
ั
้
ํ
ิ
้
ื
่
ั
้
ั
้
โครงการ รวมทงกําหนดเวลาและทรัพยากรตาง ๆ ทจะใชไดในโครงการวิจยเพอใหนกวจัยสามารถนาเสนอ
่
่
ั
้
ี
ิ
ํ
ิ
ั
้
ั
ื
ิ
ผลการวจัยและส่งมอบรายงานการวจยไดทนตามกาหนดเวลา (5) โปรแกรมทีเลอกใชในการวเคราะหข้อมล
้
ู
์
่
ในปจจุบันมโปรแกรมสําเร็จรูปทใชในการวเคราะหเนือหาจานวนมาก แตละโปรแกรมก็มคุณลักษณะการใช ้
่
้
ี
ั
ิ
ี
้
่
ํ
์
ี
้
ั
้
่
งานทีแตกตางกนไป มทงโปรแกรมทีนักวจยสามารถใชไดโดยไมตองเสียค่าใชจายและโปรแกรมทีมลิขสิทธ ์ ิ
่
่
่
่
ี
ั
้
้
ิ
่
้
ั
ี
ี
่
็
ื
ิ
ั
นกวจัยจาเปนตองศึกษาและทาความเขาใจและทดลองใชโปรแกรมเหล่านเพอเลือกใชใหเหมาะสมกับ
ํ
้
ํ
้
้
้
้
้
โครงการวิจยของตน (6) สมรรถนะของนกวจัย ทกษะหรอประสบการณ์หรือความสามารถของนักวจยมส่วน
ื
ั
ั
ั
ี
ั
ิ
ิ
11 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย
่