Page 20 - PAAT_Journal_V2-2019
P. 20
PAAT Journal Vol. 2, No. 2, December 2019
ิ
ึ
่
่
ิ
ี
ิ
ุ
ู
สําคัญในการดําเนนการวจยโดยเฉพาะอยางยงในส่วนของการวเคราะหข้อมลวจยเชงคณภาพซงมหลาย
ิ
ั
ิ
ิ
่
ั
์
ี
ิ
้
้
่
์
่
ั
รูปแบบ นกวจยจะตองสร้างประสบการณให้แก่ตนเองให้พร้อมดวยวธการตาง ๆ เชน การฝึกอบรม
ิ
ั
ื
ั
่
ิ
้
่
ี
้
่
์
ึ
เรืองการวิเคราะหเนือหาแบบตาง ๆ ตลอดจนทดลองฝกปฏิบตการวเคราะห์เนอหาทหลากหลายรูปแบบ
ิ
ื
่
์
้
เพอให้สามารถใชดาเนนการวเคราะหข้อมลในการวจัยเชงคุณภาพในโครงการวจยของตนไดอยางม ี
ิ
ู
ํ
ั
ิ
้
ิ
่
ิ
ิ
ิ
ิ
ประสทธภาพ
7. สรุปและเสนอแนะ
ี
7.1 บทสรป กล่าวโดยสรุปแล้ว การวเคราะหเนอหา เป็นการตความหมายของเนอหา เปนวธการ
ุ
์
็
้
ิ
ี
ิ
ื
ื
้
ั
ั
ู
ั
ิ
ุ
้
ิ
้
ิ
ิ
ั
้
่
ี
์
ิ
ิ
ั
วเคราะหข้อมลทใชไดกับการวจยทง การวิจยเชงคณภาพ การวจยเชงปริมาณ และการวจยแบบผสม การ
ื
์
้
ิ
่
้
้
่
้
์
่
ิ
็
วเคราะหเนอหาทีศึกษาในบทความนีเปนการวเคราะหเนอหาทีใชกับการวจัยเชงคุณภาพเทานัน โดยศึกษาการ
ิ
ิ
้
ื
้
ั
ั
ี
ี
ุ
่
้
ิ
้
ั
่
ื
็
ี
ุ
ิ
้
่
์
ิ
วเคราะหเนือหาทีใชในการวิจยเชงคณภาพทเปนทนยมใชในปจจบนเพยงสามแบบ คือ การวเคราะห์เนอหา
ิ
ิ
แบบดงเดม (Conventional Content Analysis) การวเคราะห์เนือหาแบบการกําหนดทศทางล่วงหน้า
ิ
้
ั
้
ิ
้
์
ื
ุ
(Directed Content Analysis) และการวเคราะหเนอหาแบบสรปความ (Summative Content Analysis)
ิ
ั
่
้
ั
ั
็
ี
้
การวเคราะห์เนือหาทกแบบตองมการลงรหส (Code) จดหมวดหมรหัสเปนหวข้อเรือง (Category) แตในบาง
่
ิ
ุ
ู
่
ํ
่
ี
กรณีอาจกระทาเพยงหวข้อเรือง (Category) แล้วนําไปจดทํารายงานการวจัย แตในบางกรณอาจมการจัด
ั
ิ
ั
่
ี
ี
ู
ั
่
้
ี
หมวดหมของผลการวเคราะหเพมขึนอกไดโดยจดทําเป็นหวข้อเรืองหลัก (Theme) ก็ได นอกจากนในการ
์
้
่
ิ
ั
ิ
่
้
้
ี
้
ิ
ู
ิ
้
วเคราะห์ข้อมลเชงคุณภาพตามยทธศาสตร์กาาวจัยแตละแบบนนก็มวธการ ขันตอนและกระบวนการเปนของ
ั
ี
ุ
็
่
ิ
ี
ิ
่
์
ื
้
ิ
ู
่
ิ
ิ
ิ
ั
ตนเอง เชน การวเคราะหข้อมลในการวจัยเชงคุณภาพทีใชยทธศาสตรการวจยเพอสร้างทฤษฎี (Grounded
์
ุ
่
ั
ิ
้
ั
่
้
้
ื
Theory) จะตองใชการวิเคราะหเนอหาแบบดงเดม (Conventional Content Analysis) เทานน นอกจากน ี ้
้
้
์
ิ
ิ
ั
ุ
้
ิ
ั
ี
้
ในแตละยทธศาสตร์การวจยเชงคุณภาพจะมขันตอนและกระบวนการให้นักวจยเลือกใชไดหลายแบบตามท ่ ี
่
้
ึ
ั
ิ
่
เหนวาเหมาะสมกับโครงการงานวจยของตนซงมความแตกตางกันออกไป ดงนนนกวจยจะตองคํานึงถึงประเดน
ิ
ั
ั
่
็
้
่
ั
้
ั
ี
็
ุ
ี
้
่
ิ
้
ิ
่
์
้
ั
สําคัญตาง ๆ ประกอบดวย เชน ประเภทของการวจย ประเภทของยทธศาสตรการวจัย ผูมส่วนไดส่วนเสียใน
้
้
่
ิ
โครงการวจย ขนาดของโครงการและระยะเวลารวมทังทรัพยากรของโครงการวิจย โปรแกรมทีเลือกใชในการ
ั
ั
ิ
ั
ิ
ื
ื
ิ
์
่
วเคราะหข้อมล และ สมรรถนะของนกวจย เพอใหสามารถเลอกใชวธการวเคราะหเนือหาในการวเคราะห ์
้
์
ั
ิ
้
้
ี
ิ
ู
ิ
ข้อมลการวจยเชงคณภาพได้อยางถูกตองเหมาะสมกบโครงการวจัยของตน
ิ
ุ
ั
่
ิ
ั
ู
้
้
ู
ื
์
7.2 ข้อเสนอแนะ การวเคราะห์ข้อมลในการวจยเชงคุณภาพทีใชวธการวเคราะหเนอหาตามหลกการ
่
ิ
ิ
ั
ั
ี
ิ
ิ
ิ
้
ั
ั
้
ี
ํ
่
่
ิ
และวธการในการวจยเชงคุณภาพ (Qualitative Content Analysis) ทไดนาเสนอในบทความนยงมไมมากนก
ี
ั
้
ิ
ี
ิ
ี
ู
ุ
ิ
ุ
่
้
้
ิ
ิ
ั
ี
้
ุ
้
ในชมชนวจัยไทยในปัจจบัน ส่วนใหญแล้วมกจะใชวธการสรปสาระของเนือหาของขอมลโดยมไดผ่าน
ื
้
้
กระบวนการของการวเคราะห์เนอหา (Content Analysis Process) ตามหลักการและวธการทไดนาเสนอมา
ิ
ี
ี
่
ํ
ิ
้
ั
ิ
ื
น แมการดาเนินการดงกล่าวจะเปนการสรุปสาระของเนอหาของข้อมลก็ตามวธการดงกล่าวนีไมใชวธการ
่
้
ี
้
ี
้
ิ
ู
่
ี
ั
็
ํ
้
ื
ิ
ิ
์
วเคราะหเนือหาแบบสรุปความ (Summative Content Analysis) ตามแบบของการวเคราะหเนอหาในการ
์
้
ิ
่
ั
วจยเชงคุณภาพตามหลักการของการวจยเชงคณภาพ เพอใหนกวจยสามารถดาเนินการวจัยในส่วนของการ
ิ
ั
ั
ิ
ั
ิ
ิ
ิ
ื
ุ
ํ
้
วเคราะห์ข้อมลการวจัยเชงคุณภาพไดประสบความสําเรจอยางมประสิทธภาพและประสิทธผลนักวจยและผูม ี
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
ู
ิ
้
้
่
็
ั
ั
่
ั
ิ
่
้
ื
ํ
ํ
ี
ิ
ส่วนไดสวนเสียในการวจยเชงคุณภาพควรดาเนินการตาง ๆ ดงตอไปนี (1) ศึกษาเพอทาความเข้าใจในวิธการ
่
่
้
ื
ิ
วเคราะหเนือหาทใชในการวจยเชงคุณภาพและทําการฝึกฝนตนเองเพอใหสามารถทาการวเคราะหเนอหาใน
ํ
้
้
์
ิ
่
้
ี
้
์
ิ
ิ
ั
่
ื
่
ื
้
ิ
้
้
ิ
ิ
่
่
ี
การวจัยเชงคุณภาพไดอยางถูกตองทมหลากหลายรูปแบบรวมทังการวเคราะห์เนอหาสามรูปแบบตามทีได ้
้
ี
ิ
ั
ี
้
้
่
่
ํ
้
นาเสนอในบทความนและเลือกใชรูปแบบทีเหมาะสมกับโครงการวจยของตนได้อยางถูกตอง (2) ศึกษาและทา ํ
ุ
้
ความเขาใจกับวธการ กระบวนการ และขันตอน การวเคราะหข้อมลเชงคุณภาพตามยทธศาสตร์การวจยเชง ิ
ิ
ั
ิ
ี
ู
ิ
้
์
ิ
12 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย
่