Page 17 - Microsoft Word - PAAT Journal V3-2020-update by ap
P. 17
PAAT Journal Vol. 2, No. 3, June 2020
ั
้
็
้
่
ึ
ี
็
้
ั
้
่
่
้
ประหยด ตลอดจนส่งเสริมใหเกษตรกรเปนผูนําทองถินทเข้มแขง รูจกพงตนเอง ดวยการเข้ารับการอบรมและ
ี
ุ
่
่
ี
ั
็
ิ
มส่วนร่วมในการแสดงความคดเหน จะเหนวาความมงหวงของภาครัฐในดานตาง ๆ นไมเพยงแต่จะดไม ่
ู
่
็
้
่
ี
้
่
ั
้
่
สอดคลองกันแตยงขัดแยงกนเองอย่างเห็นได้ชัด เช่น การเน้นให้ท้องถินพึงตนเองได้ แต่ขาดการสนับสนุน
้
ั
่
ปจจัยการผลิตและตนทุนทหน่วยงานหรือเกษตรกรจะตองแบกรบ รวมถึงการจดสรรงบประมาณทีไม ่
ั
ั
้
่
่
ั
้
ี
ํ
ี
์
ํ
ื
ิ
้
้
ี
ี
็
ั
่
่
เหมาะสม เน้นเพยงการอบรมเปนหลัก ในขณะทภาครฐตองการขยายพนทการทาเกษตรอนทรีย และจานวน
ของเกษตรในระบบอินทรียก็มีแนวโน้มเพิมขึน แต่งบประมาณกลับไม่เพิมขึนตาม ทังยังไม่มีนโยบายเพิม
่
่
้
่
์
้
้
้
ุ
้
ี
ํ
้
้
ื
้
ั
ิ
่
ี
ุ
จานวนขาราชการผูปฏิบตงานใหครอบคลมทกพนทอกดวย
ั
้
่
2. ปัจจัยดานสภาพแวดลอมของโครงการหรือนโยบาย (Context of Policy) ดงทกล่าวไปแล้ววา
้
ี
่
่
ี
ั
ํ
้
่
ั
การขบเคลือนนโยบายเศรษฐกิจชวภาพของจังหวดอบลราชธาน อปสรรคสาคัญคือปจจัยดานเนือหาสาระทีไม่
้
ี
ั
ุ
ุ
ี
ั
ั
่
ั
ั
ชดเจน ส่งผลตอการขบเคลือนนโยบายในภาพรวมไม่มประสทธภาพ อยางไรก็ด ปจจัยดงกล่าวกลับไมใช ่
ิ
่
่
ิ
ี
่
่
่
ื
้
ี
่
เงือนไขหลักอนสําคัญทสุดทส่งผลตอการขับเคลือนนโยบาย ปจจยดานความรวมมอระหวางผูมส่วนเกยวข้อง
ั
ั
่
ี
ี
่
่
ี
่
้
่
ั
ํ
่
้
่
่
ในพนทต่างหากทีเป็นเงือนไขสําคัญทาให้นโยบายเศรษฐกิจชีวภาพสามารถดําเนินการต่อไปได้อย่างราบรืน
ื
ี
่
ื
้
้
ุ
แมวาตวเนอหาสาระของนโยบายจะไมชัดเจนกตาม เนืองจากสาเหต ดงน:
้
็
ั
ี
่
ั
่
่
่
2.1 ความร่วมมือระหวางหน่วยงานภาครัฐ ผูปฏิบตงานดานการเกษตรของหน่วยงาน
ั
้
้
ิ
่
ื
ภาครัฐมการประสานความร่วมมอกันเปนอยางด เนองจาก ผูปฏิบติงานส่วนใหญ่มีพืนฐานด้านการเกษตรที ่
ื
ี
่
้
ั
้
็
ี
ั
้
ั
ึ
ี
ั
ี
ิ
ี
คล้ายคลึงกัน จบการศกษาจากคณะเดยวกันหรือสถาบนเดยวกน มความสนทสนมกนทงภายในและภายนอก
ั
ึ
่
้
ื
่
หน่วยงาน และมประสบการณ์ทางานร่วมกันในนโยบายดานการเกษตรอน ๆ มาอยางตอเนอง จงเข้าใจในวิถี
ื
่
่
ํ
ี
การทาเกษตรและเขาใจสภาพปัญหาทเกดขึนในพนทร่วมกน เมือปฏิบัติงานร่วมกนจึงสือสารและประสานงาน
ั
้
่
ั
้
่
ิ
ํ
ี
่
้
ื
่
ี
ั
่
ํ
กันง่าย ส่งผลตอการเห็นพองตองกันในเปาหมายของนโยบายสูง ประกอบกบจานวนของหนวยงานหลักท ี ่
้
่
้
้
่
ี
่
่
เกียวข้องและผูปฏิบัตงานจงมจานวนไมมาก จงชวยลดโอกาสทจะเกิดความขัดแยงหรือลดการตดตอสือสารท ี ่
ิ
ึ
ิ
่
ึ
ี
้
ํ
่
่
้
ล่าชาและไมมประสทธภาพ
่
ิ
ี
ิ
้
ั
ื
2.2 การสนับสนุนของเกษตรกร เพอใหผ่านการตรวจรบรองมาตรฐานการผลิตตามระบบ
้
่
ื
ี
ุ
้
้
เกษตรอนทรีย เกษตรผูเข้าร่วมโครงการอุบลโมเดลจึงมความตงใจและใหความร่วมมอกับเจ้าหนาทในทก
ั
ี
่
้
์
้
ิ
ขันตอนการผลิต ซงการรับรองดงกล่าวจะเปนเครืองการันตถึงรายไดและชวตความเปนอยูทดขึนของเกษตรกร
่
ี
ิ
้
ี
็
่
ั
็
ึ
่
้
้
ี
ี
่
่
ั
้
ิ
ั
ี
ในอนาคต อยางไรก็ด เกษตรกรยงประสบกบปัญหาดานปัจจัยการผลตบางประการ ได้แก่ ขาดวัตถุดิบการทํา
ํ
์
้
้
ั
ิ
ั
ั
ุ
ปยอนทรีย ขาดเครืองมอในการกําจดวชพช ขาดระบบจดการนา และขาดแรงงาน เปนตน นอกจากน ยง ั
๋
ื
็
ี
ื
้
่
้
ั
่
้
พบวาเกษตรกรบางรายยงขาดความรพนฐานในการเลือกซอปุยใหถูกตองตามมาตรฐาน แมหนวยงานรฐจะม ี
๋
ู
้
้
้
ื
่
ื
ั
้
้
้
่
ิ
การอบรมวธการเลือกซือปุย รวมถงมีช่องทางการสือสารให้สอบถาม เช่น กลุมไลน์ ก็ยังพบว่ามีการซือปุยท ่ ี
ี
ึ
๋
่
๋
้
่
้
ั
่
่
ู
้
ไมไดผ่านการรับรองมาตรฐานอยเสมอ ทําใหเกษตรกรเหลานันไมผ่านการตรวจรบรองมาตรฐานตามระบบ
่
ั
่
่
้
่
เกษตรอนทรีย ปัญหาในส่วนนีหนวยงานภาครัฐและภาคเอกชนก็พยายามแสวงหาทางออกร่วมกน เชน หมน
์
ั
ิ
ี
่
่
ตรวจเย่ยมแปลงเกษตรกรเพือตรวจเช็คมาตรฐาน ระหว่างการตรวจเยียมแปลงจะมีการให้คําแนะนํารวมถึงให้
้
ู
่
ั
ิ
่
ู
กําลังใจแกเกษตรกร การเกบตวอยางดนไปตรวจสอบ และเนนการสือสารให้ข้อมลผ่านการอบรมและส่งข้อมล
็
่
ในกลุมไลน์อยูเสมอ รวมถงใชเครือข่ายหมอดนชวยกันดแลเกษตรกรในชมชนอย่างใกล้ชด จึงสามารถจดการ
ุ
ึ
ิ
ิ
่
ู
่
ั
่
้
9 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย
่