Page 15 - Microsoft Word - PAAT Journal V3-2020-update by ap
P. 15
PAAT Journal Vol. 2, No. 3, June 2020
็
้
ี
่
ั
่
่
ี
่
้
ู
ู
่
ั
มนใจวานโยบายนอยในความรบผิดชอบของตนเอง แมวาจะมข้อมลปรากฏในเวบไซต์ของหนวยงานรัฐบาล
ี
ั
่
่
ั
ี
็
ุ
่
้
้
่
ั
่
็
ี
ระบวาหนวยงานเหล่านนเปนผูทมความเกียวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจชวภาพกตาม ปญหาความไมชดเจน
่
ี
ี
้
่
ิ
ี
เชนนเกิดจากการสือสารทไมมประสิทธภาพ ไมสามารถระบไดวาหน่วยงานใดบ้างจะเป็นผูรับผิดชอบนโยบาย
่
้
่
ุ
้
่
่
่
่
ุ
ั
ั
ยกตวอยางเชน กรณีนโยบายดานการเกษตรของจงหวดอบลราชธาน เชน นโยบายส่งเสริมองค์ความรดาน
้
่
ู
้
ี
้
ั
เกษตรอินทรียใหแก่เกษตรในพืนที นโยบายขยายระบบเกษตรอินทรียครอบคลุมทงจงหวด หรือกระทง ั ่
์
้
์
้
ั
่
ั
ั
้
ั
โครงการอบลโมเดล หนวยงานส่วนกลางมกจะกาหนดนโยบายใหหน่วยงานส่วนภูมิภาคนําไปปฏิบัติ แต่ไม่
ํ
่
้
ุ
ั
่
ิ
กําหนดแน่ชดวากรมส่งเสรมการเกษตรหรือกรมวชาการเกษตรจะเป็นหนวยงานรับผิดชอบหลัก ซงความไม ่
่
ิ
่
ึ
่
ื
่
ชดเจนของการกาหนดนโยบายดงกล่าวส่งผลกระทบเชงลบตอการขับเคลอนนโยบายเปนอยางมาก สามารถ
ั
ํ
็
ิ
่
ั
้
้
ิ
อธบายไดดงตอไปนี
ั
่
ื
่
่
่
ื
1.1 นโยบายขาดการสอสารไปยังหน่วยงานระดบลาง เมอแนวทางปฏิบัติและเจ้าภาพหลัก
ั
่
ุ
่
่
่
ั
่
่
ของนโยบายไมชดเจน จึงยากทีจะระบวาหนวยงานใดจะตองรับผิดชอบในเรืองใดในการขับเคลือนนโยบาย
้
่
้
ั
ั
้
่
้
ปญหานีสะทอนใหเหนจากการทีผูบริหารบางสวนรบรูข้อมลนโยบายแตยงไมเข้าใจนโยบายอยางถ่องแท้ ส่วนผู ้
ั
้
่
่
ู
้
็
่
่
ู
็
้
่
่
่
่
่
ี
ํ
้
ทเข้าใจนโยบายอยางถองแท้ส่วนใหญอยในระดับผูอานวยการ (หน่วยงานละ 1-2 คน) อยางไรกตาม ผูบริหาร
่
้
่
ี
แมจะทราบขอมูลแต่ก็ไม่สามารถผลักดันนโยบายได้เท่าทควร เนืองจากไม่มีการระบุถึงความรับผิดชอบและ
้
่
็
่
่
้
การสือสารลงมาจากหน่วยงานส่วนกลางใหชดเจน จึงยากแก่การทุมเททรพยากรใหเตมท เพราะหนวยงาน
ั
้
ั
่
ี
้
ื
่
่
ี
่
่
ตองจดสรรทรัพยากรไปทีนโยบายอนดวย ในขณะทผูปฏิบตงานส่วนใหญไมทราบแน่ชดเกี่ยวกับนโยบาย
้
้
ิ
ั
ั
ั
่
่
ุ
่
้
้
ิ
่
ี
่
ู
่
ี
เศรษฐกจชวภาพ ยงไปกวานัน ผูปฏิบตงานไมทราบวาโครงการอบลโมเดลอยภายใตนโยบายเศรษฐกิจชวภาพ
ิ
้
ิ
ั
็
ิ
้
่
ั
้
แมผูปฏิบตงานจะทางานภายใตโครงการอบลโมเดล ทวาเปนการทางานในลักษณะให้ความสําคัญเฉพาะงาน
ํ
ํ
ุ
้
ู
ํ
่
้
ํ
ื
่
ั
ประจาของตนเองเท่านัน โดยไมพยายามเชอมโยงงานของตนเองกบงานส่วนอนในลักษณะการบรณาการ ทา
ื
่
้
่
้
้
่
้
ู
ใหงานแตละส่วนแยกขาดออกจากกัน เจาหนาทีผูปฏิบตงานส่วนใหญใชความรพนฐานในนโยบายดาน
้
ิ
้
ื
้
่
ั
้
ั
้
ั
้
ั
ิ
็
้
่
่
ุ
การเกษตรทีคล้ายคลึงกันซงเปนความรูชดเดม และเมอเกิดปญหาขึนมกจะไปแก้ปญหาหนางาน เพราะมองวา ่
ื
ึ
่
้
่
ั
เป็นปญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ไมส่งผลตอกระทบมากนักตอการปฏิบัติตามนโยบาย สถานการณ์เช่นนีทําให้
่
่
ํ
เจาหน้าทขาดความทุมเทในการแกไขปญหา รวมถึงไมเกิดการพฒนาทักษะความรูความชานาญ
ั
่
่
้
ี
ั
่
้
้
ิ
ี
้
1.2 การซอนทบกบนโยบายด้านเกษตรอน ๆ เนืองจากนโยบายเศรษฐกจชวภาพมแนว
ี
ั
่
่
ั
ื
ิ
ทางการส่งเสริมในรูปแบบเกษตรอนทรียทคลายคลึงกับนโยบายดานเกษตรอน ๆ เชน นโยบายเกษตรอนทรีย ์
ี
่
้
ิ
่
้
ื
่
์
้
และนโยบายเกษตรแปลงใหญ ผูปฏิบัติงานจึงสับสนว่านโยบายเหล่านีคือนโยบายเดียวกันกับนโยบาย
้
่
ี
ั
ิ
้
ึ
ึ
ี
่
่
ื
์
ํ
ิ
ิ
เศรษฐกิจชวภาพ การปฏิบตงานจงกระทําในแนวทางเดมทคล้ายคลงกับงานดานเกษตรอนทรียอน ๆ ทาให ้
ิ
ั
้
การปฏิบตงานผิดวตถุประสงคทแทจริงของนโยบาย อยางไรก็ด ภาพรวมของเจาหน้าทผูปฏิบัติงานแม้จะมี
ั
่
้
้
ี
่
์
ี
่
ี
็
้
้
ความรูพนฐานดานการเกษตร สามารถถ่ายทอดความรใหแก่เกษตรกรไดเปนอยางด แตก็เปนเพยงความรู ้
ี
่
ื
ี
็
้
ู
้
้
้
่
พนฐานทใชปฏิบตในนโยบายดานเกษตรทวไป ไมใชเปนความรูเฉพาะดานเศรษฐกิจชวภาพ ประกอบกบ การ
้
ี
ั
้
่
้
ื
ั
่
ั
้
่
ิ
็
่
ี
้
่
ี
่
ี
่
ทนโยบายขาดแนวทางและการสอสารทไมเพยงพอ ยิงส่งผลต่อการรับรูของผูปฏิบัติงานทีไม่สามารถมองภาพ
่
้
ื
้
่
่
ี
ิ
้
่
ั
ื
ั
่
้
ั
้
ทงหวงโซการผลิตไดชดเจน โดยผูปฏิบตงานมกจะมองเฉพาะภาระงานของตนเองและขาดการเชอมโยงกับงาน
ั
่
ื
่
ส่วนอน
7 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย
่