Page 15 - Microsoft Word - PAAT Journal V4-2020
P. 15
PAAT Journal Vol. 2, No. 4, December 2020
(phenomenological study) แบบการศึกษาเพื่อสร้างทฤษฎี (grounded theory) แบบการศึกษา
วัฒนธรรม (ethnographical study) และแบบกรณีศึกษา (case study) ซึ่งแต่ละยุทธศาสตร์การวิจัย
นอกจากจะต้องใช้กระบวนการและวิธีการวิเคราะห์เนื้อหาตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นยังจะต้องดําเนินการ
วิเคราะห์เพิ่มขึ้นโดยใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นแบบเฉพาะของแต่ละยุทธศาสตร์ เช่น ในการวิเคราะห์
ข้อมูลตามแบบศึกษาปรากฏการณ์ (phenomenological study) อาจเลือกใช้วิธีการของ Giorgi (1985)
หรือ Moustakas (1994) ในการดําเนินการ เป็นต้น
ดังนั้นในการนําเสนอและการแสดงข้อมูลจึง จําเป็นต้องพิจารณาความแตกต่างของวิธีการวิเคราะห์
ข้อมูลตามแบบเฉพาะของแต่ละยุทธศาสตร์การวิจัยเชิงคุณภาพที่นักวิจัยเลือกใช้ประกอบด้วย
รูปแบบการนําเสนอและการแสดงข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพ
จากการศึกษาของ Verdinelli & Scagnoli (2013) พบว่ามีรูปแบบการนําเสนอและการแสดงข้อมูล
การวิจัยเชิงคุณภาพที่ใช้กันอยู่ทั่วไป 9 รูปแบบ ดังตารางที่ 3
ตารางที่ 3: รูปแบบการนําเสนอและการแสดงข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพ 9 รูปแบบ
รูปแบบการแสดงข้อมูล วัตถุประสงค์
แบบกล่อง เน้นข้อความที่เฉพาะเจาะจงที่พิจารณาเห็นว่าสําคัญโดยนําบรรจุ
(boxed display) เข้าไว้ในกล่อง
แบบจําลองต้นไม้การตัดสินใจ เพื่ออธิบายความเห็น การตัดสินใจ และการกระทํา
(decision tree modeling)
แบบผังการไหลของงาน (flow chart) เพื่อแสดงทิศทางของการไหลและแสดงเส้นทางเดินของกลุ่มต่างๆ
แบบขั้นบันได (ladder) เพื่อเป็นตัวแทนมิติต่าง ๆ ของความก้าวหน้าของปรากฏการณ์
บางอย่างในช่วงเวลาหรือแสดงระดับหรือขั้นตอน
แบบแมทริกซ์ (matrix) เพื่อเชื่อมมิติต่าง ๆ ตั้งแต่สองมิติขึ้นไป หรือตัวแปร หรือแนวคิด
ของประเด็นที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นที่สนใจ
แบบเปรียบเทียบ (metaphorical เพื่อเสนอโดยเปรียบเทียบให้เห็นทางของประเด็นหรือหัวข้อเรื่อง
visual display) หลักที่ค้นพบ
แบบปรับปรุงไดอะแกรมของเว็น เพื่อระบุด้านหรือแนวคิดหรือประเภทข้อมูลหรือกระบวนการ
(modified Venn diagram) ร่วมกันหรือเหลื่อมกัน
แบบเครือข่าย (network) เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างหัวข้อเรื่องหลักกับหัวข้อเรื่องหรือ
ประเภทข้อมูลหลักหรือประเภทข้อมูลรอง
แบบแบ่งชั้น (taxonomy) เพื่อจําแนกหรือจัดระเบียบข้อมูล
ที่มา: Verdinelli & Scagnoli, 2013, p. 364.
6 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย