Page 29 - thaipaat_Stou_2563
P. 29
งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓
2. การช่วยเหลือสาธารณะ (Public Assistance) เป็นการสงเคราะห์แบบให้เปล่าส าหรับผู้ที่ต้องการ
ึ่
ความช่วยเหลือ เนื่องจากช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ด้อยโอกาสทางสังคม และไร้ที่พง รูปแบบของสวัสดิการที่มีอยู่
คือ 1) เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นการจ่ายเงินแบบให้เปล่า ตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2554
ให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) จ่ายเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันไดให้กับผู้สูงอายุ โดยผู้ที่มีอายุ 60-69
ปี ได้รับเบี้ยยังชีพคนละ 600 บาทต่อเดือน ผู้ที่มีอายุ 70-79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพคนละ 700 บาทต่อเดือน ผู้
ที่มีอายุ 80-89 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพคนละ 800 บาทต่อเดือน และผู้ที่มีอายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพคนละ
1,000 บาทต่อเดือน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป 2) กองทุนดูแลผู้สูงอายุที่
ึ่
ิ
ขาดที่พง โดยส านักส่งเสริมและพทักษ์ผู้สูงอายุ เป็นการให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุกรณีเดือดร้อนจากการ
ทารุณกรรม ถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฏหมายและถูกทอดทิ้ง การสนับสนุนการจัดการงานศพ
ผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจน และการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่พกอาศัย อาหาร
ั
และเครื่องนุ่งห่ม 3) การได้รับค าปรึกษาในทางคดี การช่วยเหลือจากการทารุณกรรมและถูกทอดทิ้ง โดย
กระทรวงยุติธรรมให้ค าแนะน า ปรึกษา ที่เกี่ยวข้องในทางคดีส าหรับผู้สูงอายุ 4) การยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่
ของรัฐ โดยกระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติ ฯ ให้ผู้สูงอายุเข้าชมฟรี 5) การช่วยเหลือ
ด้านค่าโดยสารยานพาหนะตามความเหมาะสม โดยกระทรวงคมนาคม ให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ โดยรถไฟ/
รถไฟฟ้า/รถ บขส./ขสมก. ลดค่าโดยสารครึ่งราคาและการบินไทยลดค่าโดยสารภายในประเทศ ร้อยละ 15
ื้
3. การบริการสังคม (Social Service) เป็นระบบบริการที่ตอบสนองความต้องการขั้นพนฐานของ
ประชาชนประกอบด้วยบริการด้าน ต่าง ๆ 5 ด้าน คือ
ื้
3.1 ด้านสุขภาพอนามัย ประกอบด้วย 1) หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ถือเป็นสิทธิขั้นพนฐานของ
ประชาชนทุกคน ให้บริการครอบคลุมด้านการตรวจสุขภาพ การรักษาพยาบาล และการส่งเสริมสุขภาพและ
ป้องกันโรค ด าเนินงานโดยส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 2) การบริการทางการแพทย์และ
การสาธารณสุขจาก พรบ. ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545-2564) มี
การจัดช่องทางเฉพาะส าหรับผู้สูงอายุแยกจากผู้รับบริการทั่วไปในแผนกผู้ป่วยนอก 3) โรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพประจ าต าบล เป็นโครงการดูแลสุขภาพที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของชุมชนและท้องถิ่น บนพนฐาน
ื้
แนวคิด “หุ้นส่วนการดูแล” ประกอบด้วยประชาชนในพนที่ สถานบริการสุขภาพ และองค์กรปกครองส่วน
ื้
ี
ท้องถิ่น 4) การดูแลที่บ้าน (Home Care) เป็นบริการส าหรับผู้สูงอายุอกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับผู้ป่วย
ผู้สูงอายุที่อาการไม่รุนแรงและไม่สะดวกในการเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาล การลดค่าเดินทางของ
ึ
ผู้ใช้บริการ และผู้สูงอายุส่วนมากพงพอใจที่จะรับการรักษาพยาบาลที่บ้าน 5) โครงการอาสาสมัครดูแล
ผู้สูงอายุ (อผส.) เป็นโครงการที่มุ่งแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุขาดผู้ดูแล ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ถูกทอดทิ้ง ถูกละเลย
ิ
เพกเฉย และผู้สูงอายุที่ได้รับการดูแลไม่ถูกต้อง โดยอาศัยการสร้างอาสาสมัคร จากอาสาสมัครสาธารณสุข
ู
ื้
ประจ าหมู่บ้าน (อสม.) หรือประชาชนในชุมชนที่สมัครใจท าหน้าที่เป็นผู้ให้การดูแลช่วยเหลือฟนฟผู้สูงอายุใน
ชุมชน
3.2 ด้านการศึกษา ประกอบด้วย 1) การศึกษา นอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการโดยศูนย์ส่งเสริม
การศึกษานอกโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายพเศษ (ศกพ.) ได้พฒนาแนวทางการจัดการศึกษานอกโรงเรียนส าหรับ
ั
ิ
ผู้สูงอายุตามความต้องการและความสนใจของผู้สูงอายุ เช่น การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตส าหรับผู้สูงอายุ
การเสริมสร้างคุณค่าและการพฒนาที่ยั่งยืนส าหรับผู้สูงอายุ การเสริมสร้างความร่วมมือเพอความเข้มแข็งของ
ื่
ั
ิ
ิ
องค์กรผู้สูงอายุ เป็นต้น 2) การศึกษาเกี่ยวกับคอมพวเตอร์ เช่น “ชมรมการศึกษาเกี่ยวกับคอมพวเตอร์ (Old
ิ
People Playing Young Club: OPPY)” เป็นชมรมที่มุ่งเผยแพร่ความรู้และทักษะในการใช้คอมพวเตอร์และ
อินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุจะต้องจ่ายค่าบริการเอง
27