Page 34 - thaipaat_Stou_2563
P. 34
งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓
2012: 1) 4) ควรทบทวนและปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับระบบการจัดสวัสดิการให้เหมาะสม โดย
่
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.
ิ
2541 พระราชบัญญัติจัดตั้งและวิธีพจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546
และกฎหมายฝ่ายบริหารจ านวน 1 ฉบับ คือ ประกาศกระทรวงแรงงานฉบับลงวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2547
เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคุ้มครองการส่งเสริม และการสนับสนุนผู้สูงอายุในการ
ประกอบอาชีพหรืออาชีพที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับมาดี ลิ่มสกุล (2558: 28) ที่ได้ท าการวิจัยเรื่อง
กฎหมายกลางว่าด้วยการจัดสวัสดิการสังคมของประเทศไทย ผลการวิจัย พบว่า กฎหมายสวัสดิการของไทยมี
ข้อจ ากัดด้านบทบัญญัติเชิงบริหารจัดการ และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกฎหมายไทยกับกฎหมายต่างประเทศ
ใน 9 ประเด็น ได้แก่ เจตนารมณ์ของกฎหมายสวัสดิการสังคม โครงสร้างคณะกรรมการสวัสดิการสังคมใน
ระดับชาติและระดับท้องถิ่น อานาจหน้าที่คณะกรรมการสวัสดิการสังคมในระดับชาติและระดับท้องถิ่น
หน่วยงานและอานาจหน้าที่ด้านการปฏิบัติของรัฐ การก าหนดกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการ การบริหารกองทุน
ด้านสวัสดิการสังคม การตรวจสอบการท างานของคณะกรรมการสวัสดิการสังคม การมีส่วนร่วมของประชาชน
ในกฎหมายสวัสดิการสังคม ควรปรับปรุงทั้ง 9 ประเด็น ทั้งนี้ในงานวิจัยของฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ (2558:
149) ที่ได้อธิบายถึงกลไกการพัฒนานโยบายส าหรับผู้สูงอายุของประเทศไทย มี 3 ระดับ คือ 1) ในระดับชาติ
ั
มีคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติที่ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2549 ตามแนวทางการพฒนานโยบายแบบบูรณาการ
ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 2) ในระดับกระทรวง กระทรวงที่เป็นหลักในการจัดบริการส าหรับ
ั
ผู้สูงอายุคือ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ และ 3) ในระดับ
ั
ปฏิบัติการ หน่วยงานส่วนภูมิภาคพฒนาบริการตามกรอบและการสนับสนุนวิชาการ จากหน่วยงานส่วนกลาง
ภาพรวมจากกฎหมายสู่การจัดการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุต้องท าแบบองค์รวม และบูรณาการทั้งในมิติด้าน
สังคม เศรษฐกิจและการเมือง การจัดการความเข้มแขงชุมชนให้เอื้อต่อการพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุโดยส่งเสริม
็
และพัฒนาบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุ
บทสรุป
ความเป็นสังคมผู้สูงอายุสมบูรณ์มีผลกระทบในระดับมหภาค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
(GDP) การจ้างงาน/ผลิตภาพแรงงาน และผลกระทบในระดับจุลภาค ได้แก่ ขาดแรงงานในธุรกิจบริการ ขาด
แรงงานส าหรับชีวิตประจ าวัน (เช่น แม่บ้าน คนขับรถ ก่อสร้าง เป็นต้น) ฯลฯ ดังนั้นทิศทางการพัฒนาคุณภาพ
ชีวิตของผู้สูงอายุในประเทศไทยภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางสังคมผู้ก าหนดนโยบายควรมีการจัดท าทะเบียน
ผู้สูงอายุ ก าหนดมาตรฐานการให้บริการ และจัดบริการที่สามารถตอบสนองการด ารงชีวิตของผู้สูงอายุ โดย
จัดสรรทรัพยากรที่เพยงพอในการด าเนินงานการส่งเสริมและพฒนากลุ่มเป้าหมาย ส่งเสริมและขยายโอกาส
ั
ี
การท างานของผู้สูงอายุ ขยายอายุเกษียณการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม สะดวก ปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุ
โดยบูรณาการร่วมกับการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ตลอดจนท าการศึกษาวิจัยเรื่องกฎหมายสวัสดิการ
ของไทยการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะที่ท าหน้าที่ดูแลงานด้านผู้สูงอายุ การศึกษาแนวทางการจ้างงานผู้สูงอายุ
และปัญหาอปสรรคในการน ามาตรการต่าง ๆ เช่น การลดหย่อนภาษี การส่งเสริมการพฒนาเครื่องจักรหรือ
ั
ุ
สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับการท างานของผู้สูงอายุ การเลื่อนการเกษียณอายุมาใช้ในสถานประกอบการเพอ
ื่
ประโยชน์ต่อการพฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและน าไปสู่การก าหนดนโยบายและการน านโยบายด้าน
ั
ผู้สูงอายุไปใช้ได้อย่างเหมาะสม
32