Page 23 - Microsoft Word - PAAT Journal V4-2020
P. 23
PAAT Journal Vol. 2, No. 4, December 2020
บทนํา
ธรรมาภิบาลจัดเป็นแนวคิดที่สําคัญในการบริหารงานและการปกครอง ในปัจจุบัน แนวคิดธรรมาภิ
บาลได้ถูกนํามาใช้อย่างแพร่หลายตั้งแต่ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 เป็น
ต้นมา ทั้งนี้ในหนังสือแสดงเจตจํานงกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุให้รัฐบาลไทยนั้น
จะต้องสร้างธรรมาภิบาล (Good Governance) ให้เกิดขึ้นในการบริหารจัดการภาครัฐ แนวทางธรรมาภิบาล
จึงได้ถูกนํามาใช้เพื่อการดําเนินการและแก้ปัญหาในการบริหารจัดการองค์กร และปรับปรุงประสิทธิภาพต่างๆ
ในการบริหาร ซึ่งจะอยู่ภายใต้กรอบแนวคิดด้านธรรมาภิบาล
ธรรมาภิบาลหรือการบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี เป็นแนวทางสําคัญในการดําเนินการจัด
ระเบียบให้สังคมรัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งครอบคลุมถึงฝ่ายวิชาการ ฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่าย
ราชการ และฝ่ายธุรกิจ ให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มีความรู้รักสามัคคีและร่วมกันเป็นพลัง ก่อให้เกิด
การพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนเสริมสร้างความเข้มแข็งหรือสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประเทศ เพื่อบรรเทาป้องกัน
หรือแก้ไขเยียวยาในภาวะวิกฤติภยันตรายที่หากจะมีมาในอนาคต เพราะสังคมจะรู้สึกถึงความยุติธรรม ความมี
ส่วนร่วม และความโปร่งใส อันเป็นคุณลักษณะสําคัญของการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นพระประมุข สอดคล้องกับความเป็นไทยรัฐธรรมนูญ และกระแสโลกยุคปัจจุบันการบริหารจัดการที่ดี
คือหลักการบริหารที่มุ่งเน้นหลักการทํางาน ซึ่งหากมีการนํามาใช้เพื่อการบริหารงานแล้ว จะก่อให้เกิดความ
เชื่อมั่นว่าจะนํามาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งปัจจุบันการบริหารงานในภาครัฐนั้นได้รับความสนใจอย่างมากจาก
ประชาชน ในเรื่องของความโปร่งใสในการดําเนินงาน ดังนั้นการนําหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในหน่วยงานภาครัฐ
ก็เพื่อที่จะให้ประชาชนได้เกิดความเชื่อถือศรัทธาว่าปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นของหน่วยงาน
ภาครัฐจะลดลง ซึ่งสิ่งที่จําเป็นในการบริหารงานของหน่วยงานในภาครัฐ ได้แก่ ภาระรับผิดชอบ
(Accountability) ความโปร่งใส (Transparency) การปราบปรามการทุจริตและการประพฤติมิชอบ (Anti-
Corruption) การสร้างการมีส่วนร่วม (Participation) การสร้างกรอบทางกฎหมายกระบวนการยุติธรรม
(The Rule of Law) การตอบสนองที่ทันการ (Responsiveness) ความเห็นชอบร่วมกัน (Consensus
Oriented) ประสิทธิภาพและประสิทธิผล (Efficiency and Effectiveness) ความเสมอภาค (Equity) ซึ่งหลัก
พื้นฐานของการบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีมี 6 ประการ ได้แก่
1. หลักนิติธรรม ได้แก่ การตรากฎหมาย กฎ ข้อบังคับต่างๆ ให้ทันสมัยและเป็นธรรมเป็นที่ยอมรับ
ของสังคม ไม่เลือกปฏิบัติ และสังคมยินยอมพร้อมใจปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับเหล่านั้น โดยถือว่า
เป็นการปกครองภายใต้กฎหมาย
2. หลักความโปร่งใส ได้แก่ การสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน โดยมีการให้และการรับข้อมูลที่
สะดวกเป็นจริง ทันการณ์ ตรงไปตรงมา มีที่มาที่ไปที่ชัดเจนและเท่าเทียม และมีกระบวนการตรวจสอบความ
ถูกต้องชัดเจนได้
3. หลักการมีส่วนร่วม ได้แก่ การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ และร่วมคิด ร่วมเสนอ
ความเห็นในการตัดสินใจปัญหาสําคัญของประเทศในด้านต่างๆ เช่น การแจ้งความเห็น การไต่สวนสาธารณะ
การประชาพิจารณ์ การแสดงประชามติ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการร่วมตรวจสอบ และร่วมรับผิดชอบต่อผล
ของการกระทํานั้น
4. หลักความรับผิดชอบตรวจสอบได้ ได้แก่ ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้เป็นการสร้างกลไกให้มี
ผู้รับผิดชอบ ตระหนักในหน้าที่ ความสํานึกในความรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจปัญหาสาธารณะของ
14 สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย