Page 117 - thaipaat_Stou_2563
P. 117

งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓



                                                                                                        ื่
                                                            ่
               หลายมิติ แต่ภาครัฐดูเหมือนจะให้ความส าคัญเพียงแคมิติด้านเศรษฐกิจ ยังขาดการวิเคราะห์เชื่อมโยงในมิติอน
               ๆ เช่น ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม
                              1.4 ควำมย้อนแย้งของนโยบำยที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไปแล้วนโยบายด้านการเกษตรของ
               ภาครัฐมักจะขาดความเชื่อมโยงและมีความขัดแย้งกันเองสูง สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นจากกรณีที่

               รัฐบาลต้องการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพให้บรรลุผลในทางปฏิบัติ ซึ่งแนวทางส าคัญของนโยบาย
               เศรษฐกิจชีวภาพนั้นต้องไม่ใช้สารเคมีในระบบการผลิต แต่ในขณะเดียวกันภาครัฐกลับมีนโยบายเกี่ยวกับการ
               ใช้สารเคมีในระบบการผลิต เช่น นโยบายการขึ้นทะเบียนสารเคมี นอกจากนั้น การควบคุมช่องทางการ
               จ าหน่ายสารเคมีที่ไม่ได้มาตรฐานของภาครัฐยังหละหลวมและไม่มีทิศทางการก ากับดูแลที่แน่ชัด ดังจะเห็นได้
               จากในพื้นที่ยังมีการโฆษณาและการขายตรงวัตถุอันตรายทางการเกษตรเกินจริง ท าให้เกษตรกรซื้อปุ๋ยเคมีและ
               สารก าจัดศัตรูพืชที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น ในเมื่อภาครัฐไม่มีหลักเกณฑ์เรื่องนโยบายสารเคมีที่ชัดเจน ก็ยิ่งท าให้
               เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและเกษตรกรเกิดความสับสนในทางปฏิบัติ เช่นนั้นแล้วจึงยากที่จะบรรลุเป้าหมายที่

               ต้องการให้เกษตรกรเปลี่ยนไปเป็นระบบเกษตรอินทรีย์ครอบคลุมทั้งจังหวัด
                                                                                              ั
                              ตามค าอธิบายข้างต้น จะพบว่าผลกระทบเชิงลบของการขับเคลื่อนนโยบายอนเนื่องมาจาก
               เนื้อหาสาระของนโยบายที่ขาดความชัดเจนนั้น ปัญหาทั้งหลายที่กล่าวมาล้วนมีความเชื่อมโยงและส่งผล
               กระทบซึ่งกันและกันทั้งสิ้น พิจารณาจากการที่ภาครัฐต้องการให้หน่วยงานผู้ปฏิบัติท าตามเป้าหมายที่ก าหนด
               แต่ในเมื่อนโยบายขาดการก าหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ขาดการเชื่อมโยงนโยบายในทุกระดับและทุกมิติ
                      ี
               อย่างเพยงพอ ตลอดจนขาดการก าหนดเจ้าภาพที่ชัดเจน หน่วยงานผู้ปฏิบัติจึงไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริง
               ของนโยบาย และไม่มั่นใจว่าจะต้องปฏิบัติงานอย่างไร นอกจากนี้ การที่นโยบายมีความไม่สอดคล้องกันกับ
                        ื้
               บริบทในพนที่และยังขัดแย้งกันเองในนโยบายที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติงานจึงเต็มไปด้วยความสับสนและไม่
               สามารถมองภาพร่วมกันได้ทั้งระบบ จึงยากแก่การขับเคลื่อนนโยบายให้บรรลุผลตามเป้าหมาย
                              ทั้งนี้ ประเด็นความไม่ชัดเจนด้านเนื้อหาสาระของนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ จากการทบทวน
               เอกสารที่เกี่ยวข้อง พบว่า สภาพการณ์เช่นนี้มักพบได้ทั่วไปของการน านโยบายด้านเกษตรไปปฏิบัติของ
               ประเทศไทย กล่าวคือ การก าหนดนโยบายและตัวชี้วัดไม่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของสังคมและวิถี
               เกษตรกร ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ
               (ปรารถนา ยศสุข, 2559) ประเด็นนี้สะท้อนถึงกระบวนการการก าหนดนโยบายของภาครัฐ ที่มักจะตั้ง

                                                                                          ิ
               วัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของนโยบายโดยยึดจากผู้บริหารระดับสูงเป็นส าคัญ ขาดการพจารณาถึงบริบทใน
                                                             ุ
               พื้นที่ ภาครัฐมักจะคาดหวังว่าจะให้บริการและส่งเสริมคณภาพชีวิตของเกษตรในชนบท และกระจายอ านาจให้
                                      ี
               ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วม อกทั้งยังมุ่งหวังให้การน านโยบายไปปฏิบัติเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ
                                                                          ึ่
               ประหยัด ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกรเป็นผู้น าท้องถิ่นที่เข้มแขง รู้จักพงตนเอง ด้วยการเข้ารับการอบรมและ
                                                                    ็
               มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น จะเห็นว่าความมุ่งหวังของภาครัฐในด้านต่าง ๆ นี้ไม่เพยงแต่จะดูไม่
                                                                                              ี
                                                                                              ึ่
               สอดคล้องกันแต่ยังขัดแย้งกันเองอย่างเห็นได้ชัด เช่น การเน้นให้ท้องถิ่นพงตนเองได้
               แต่ขาดการสนับสนุนปัจจัยการผลิตและต้นทุนที่หน่วยงานหรือเกษตรกรจะต้องแบกรับ รวมถึงการจัดสรร
                                                                                           ื้
                                            ี
               งบประมาณที่ไม่เหมาะสม เน้นเพยงการอบรมเป็นหลัก ในขณะที่ภาครัฐต้องการขยายพนที่การท าเกษตร
                                                                                                 ิ่
                                                                      ิ่
                 ิ
               อนทรีย์ และจ านวนของเกษตรในระบบอนทรีย์ก็มีแนวโน้มเพมขึ้น แต่งบประมาณกลับไม่เพมขึ้นตาม
                                                    ิ
                                                                             ี
               ทั้งยังไม่มีนโยบายเพิ่มจ านวนข้าราชการผู้ปฏิบัติงานให้ครอบคลุมทุกพนที่อกด้วย
                                                                         ื้
                       2. ปัจจัยด้ำนสภำพแวดล้อมของโครงกำรหรือนโยบำย (Context of Policy) ดังที่กล่าวไปแล้วว่า
               การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพของจังหวัดอบลราชธานี อุปสรรคส าคัญคือปัจจัยด้านเนื้อหาสาระที่ไม่
                                                          ุ
               ชัดเจน ส่งผลต่อการขับเคลื่อนนโยบายในภาพรวมไม่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี ปัจจัยดังกล่าวกลับไม่ใช่
                           ั
               เงื่อนไขหลักอนส าคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนนโยบาย ปัจจัยด้านความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
                                                                                                     115
   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122