Page 120 - thaipaat_Stou_2563
P. 120

งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓



               ควรก าหนดให้กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบหลัก เนื่องจากมีความพร้อมทั้งในด้านองค์ความรู้และ
               เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ และสามารถประสานความร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี
                       2. ภาครัฐต้องก าหนดหลักเกณฑ์และทิศทางของนโยบายเกี่ยวกับการใช้สารเคมีในภาคการเกษตรให้
               เข้มข้น ในลักษณะที่สามารถบังคับให้เกษตรกรลดหรือเลิกใช้สารเคมอย่างแพร่หลาย เช่น ทบทวนการอนุญาต
                                                                        ี
                                                 ื
               ให้มีการขึ้นทะเบียนสารเคมีก าจัดศัตรูพช ก าหนดหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการก ากับดูแล ตลอดจนก าหนด
                                                                   ั
               กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการโฆษณาและการขายตรงวัตถุอนตรายทางการเกษตร รวมถึงการสร้างความ
                                                                                    ื่
               ตระหนักรู้ผ่านการฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่ เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ผลิต เพอเป็นการสร้างความมั่นใจ
                                                      ิ
               ให้แก่เกษตรกรในการเปลี่ยนมาปลูกในระบบอนทรีย์ และสร้างแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจนให้แก่หน่วยงานที่
               เกี่ยวข้อง
                       3. เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการอุบลโมเดลมากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรด าเนินการคือการ
                                                                             ิ
               เปลี่ยนทัศนคติของเกษตรกรให้หันมาเปลี่ยนวิถีการปลูกในระบบเกษตรอนทรีย์ อาจกระท าผ่าน 2 วิธีการ
                                      ื้
                                             ื่
               ได้แก่ 1) สนับสนุนปัจจัยพนฐานเพอแสดงถึงความสะดวกในการปรับเปลี่ยนวิถีการผลิต เช่น จัดตั้งกองทุน
                                                ื่
               พฒนาแหล่งน้ าและระบบจัดการน้ าเพอการเพาะปลูกในระดับครัวเรือน จัดตั้งกองทุนพฒนาเทคโนโลยีและ
                                                                                         ั
                 ั
               นวัตกรรมการผลิต จัดตั้งกองทุนส าหรับวิจัยพัฒนาปรับปรุงพันธุ์และวิธีการปลูก และ 2) ภาครัฐควรใช้วิธีการ
               เปรียบเทียบระหว่างระบบเคมีและระบบอนทรีย์ให้เห็นภาพชัดเจน โดยพยายามชี้ให้เห็นถึงข้อเสียของระบบ
                                                   ิ
               เคมีอย่างจริงจัง อาจจะกระท าในลักษณะประชาสัมพนธ์เชิงรุก ในแง่นี้ควรกระท าควบคู่ไปกับนโยบายการใช้
                                                            ั
               สารเคมีที่ได้กล่าวไปข้างต้น
                       3. หน่วยงานภาครัฐควรปรับบทบาทในการช่วยเหลือเกษตรกรให้สอดคล้องตามศักยภาพของ
               เกษตรกร เช่น ในระยะแรกจะเป็นการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยให้ความรู้พนฐานและส่งเสริมปัจจัยการผลิต
                                                                             ื้
               เบื้องต้น ระยะต่อมาเมื่อเกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการผลิตแล้วจึงให้ความรู้ชุดใหม่ที่สูงขึ้น
               รวมถึงส่งเสริมปัจจัยการผลิตก็ต้องเหมาะสมด้วยเช่นกัน ระยะต่อมาเมื่อเกษตรกรเริ่มพงพาตนเองได้ภาครัฐก็
                                                                                       ึ่
                                  ื่
                                                                                                      ื่
               ยังคงควบคุมดูแลอยู่เพอไม่ให้ออกนอกมาตรฐาน และอาจให้เกษตรกรช่วยเป็นพเลี้ยงแก่เกษตรกรรายอนใน
                                                                                   ี่
               รูปแบบของเกษตรกรตัวอย่าง (Role Model)
                                                                ั
                           ื่
                       4. เพอแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานขาดการพฒนาทักษะความรู้ความช านาญ และมักแก้ปัญหา
               เฉพาะหน้า หน่วยงานภาครัฐควรมีการสรุปถอดบทเรียนร่วมกันระหว่างผู้ปฏิบัติงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
               ทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน เนื่องจากการถอดบทเรียนจะน าไปสู่การปรับปรุงเพอให้เกิดการพฒนาใน
                                                                                                   ั
                                                                                        ื่
               การปฏิบัติงานครั้งต่อไป และการพฒนาครั้งนี้ยังเป็นการตอบสนองต่อเป้าหมายของนโยบายรัฐ ที่ส าคัญ
                                              ั
               ผลประโยชน์สูงสุดของการพัฒนาย่อมตกอยู่ที่ตัวของเกษตรกรผู้เป็นก าลังหลักในห่วงโซ่การผลิต
                       5. เนื่องจากการขายผลผลิตของเกษตรกรขึ้นอยู่กับระบบกลไกตลาด ภาครัฐควรมีแนวทางรองรับ
                                                                                           ี
               ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยการวิเคราะห์ตลาดเพอให้เข้าใจและรู้เท่าทันระบบกลไกตลาด อกทั้งยังต้องศึกษา
                                                        ื่
                                                                      ั
                                                                    ื่
                                            ุ
               ข้อมูลของคู่ค้าและคู่แข่งส าคัญในอตสาหกรรมมันส าปะหลัง เพอพฒนาสินค้าให้เป็นไปตามความต้องการของ
               ตลาดและยังเป็นการลดความสูญเสียด้านการค้า

               เอกสำรอ้ำงอิง
               Dye, T.R. (2015). Understanding Public Policy, (14th ed.). Boston: Pearson.
               Edward,  G.  C.  III  and  Sharkansky,  I.  (1 9 7 8 ) .   The  Policy  Predicament:  Making  and
                        Implementation Public Policy. San Francisco: W.H. Freeman and Company.
               European Commission. (2012). The Bioeconomy in the European Union in numbers Facts

                        and figures on biomass, turnover and employment. Retrieved 22 February 2019,
                        from

                                                                                                     118
   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125