Page 118 - thaipaat_Stou_2563
P. 118
งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓
ื้
ในพนที่ต่างหากที่เป็นเงื่อนไขส าคัญท าให้นโยบายเศรษฐกิจชีวภาพสามารถด าเนินการต่อไปได้อย่างราบรื่น
แม้ว่าตัวเนื้อหาสาระของนโยบายจะไม่ชัดเจนก็ตาม เนื่องจากสาเหตุ ดังนี้:
2.1 ควำมร่วมมอระหวำงหน่วยงำนภำครัฐ ผู้ปฏิบัติงานด้านการเกษตรของหน่วยงาน
่
ื
ื้
ภาครัฐมีการประสานความร่วมมือกันเป็นอย่างดี เนื่องจาก ผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่มีพนฐานด้านการเกษตรที่
คล้ายคลึงกัน จบการศึกษาจากคณะเดียวกันหรือสถาบันเดียวกัน มีความสนิทสนมกันทั้งภายในและภายนอก
หน่วยงาน และมีประสบการณ์ท างานร่วมกันในนโยบายด้านการเกษตรอน ๆ มาอย่างต่อเนื่อง จึงเข้าใจในวิถี
ื่
การท าเกษตรและเข้าใจสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในพนที่ร่วมกัน เมื่อปฏิบัติงานร่วมกันจึงสื่อสารและประสานงาน
ื้
กันง่าย ส่งผลต่อการเห็นพองต้องกันในเป้าหมายของนโยบายสูง ประกอบกับจ านวนของหน่วยงานหลักที่
้
เกี่ยวข้องและผู้ปฏิบัติงานจึงมีจ านวนไม่มาก จึงช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งหรือลดการติดต่อสื่อสารที่
ล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ
ื่
2.2 กำรสนับสนุนของเกษตรกร เพอให้ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานการผลิตตามระบบ
ิ
ุ
เกษตรอนทรีย์ เกษตรผู้เข้าร่วมโครงการอบลโมเดลจึงมีความตั้งใจและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในทุก
ขั้นตอนการผลิต ซึ่งการรับรองดังกล่าวจะเป็นเครื่องการันตีถึงรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเกษตรกร
ในอนาคต อย่างไรก็ดี เกษตรกรยังประสบกับปัญหาด้านปัจจัยการผลิตบางประการ ได้แก่ ขาดวัตถุดิบการท า
ื
ปุ๋ยอนทรีย์ ขาดเครื่องมือในการก าจัดวัชพช ขาดระบบจัดการน้ า และขาดแรงงาน เป็นต้น นอกจากนี้ ยัง
ิ
พบว่าเกษตรกรบางรายยังขาดความรู้พนฐานในการเลือกซื้อปุ๋ยให้ถูกต้องตามมาตรฐาน แม้หน่วยงานรัฐจะมี
ื้
การอบรมวิธีการเลือกซื้อปุ๋ย รวมถึงมีช่องทางการสื่อสารให้สอบถาม เช่น กลุ่มไลน์ ก็ยังพบว่ามีการซื้อปุ๋ยที่
ไม่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานอยู่เสมอ ท าให้เกษตรกรเหล่านั้นไม่ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานตามระบบ
เกษตรอนทรีย์ ปัญหาในส่วนนี้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนก็พยายามแสวงหาทางออกร่วมกัน เช่น หมั่น
ิ
ตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรกรเพอตรวจเช็คมาตรฐาน ระหว่างการตรวจเยี่ยมแปลงจะมีการให้ค าแนะน ารวมถึงให้
ื่
ก าลังใจแก่เกษตรกร การเก็บตัวอย่างดินไปตรวจสอบ และเน้นการสื่อสารให้ข้อมูลผ่านการอบรมและส่งข้อมูล
ในกลุ่มไลน์อยู่เสมอ รวมถึงใช้เครือข่ายหมอดินช่วยกันดูแลเกษตรกรในชุมชนอย่างใกล้ชิด จึงสามารถจัดการ
กับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ ภาพของการสนับสนุนดังกล่าวจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่
เกษตรกร และมองว่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมีการดูแลเอาใจใส่และมุ่งหวังให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่าง
แท้จริง
2.3 กำรสนับสนุนจำกภำคเอกชน แม้ว่าภาพลักษณ์ของภาคเอกชนในสายตาของเกษตรกร
ในช่วงแรกจะมองว่าภาคเอกชนมุ่งเข้ามาแสวงหาก าไรเพยงอย่างเดียว ท าให้เกษตรกรไม่มั่นใจที่จะเข้าร่วม
ี
โครงการ แต่ด้วยการสื่อสารของภาคเอกชนซึ่งมีการให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง มีการรับประกันราคา การันตีเรื่อง
รายได้ และการลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการหาตลาดในการรับซื้อ จึงเป็นสิ่งจูงใจให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ
ั
มากขึ้น อกทั้งภาคเอกชนยังร่วมมือกับภาครัฐช่วยกันคิดค้นและวิจัยหาพนธุ์มันส าปะหลังและวิธีการปลูกที่
ี
เหมาะสม เพอช่วยการลดต้นทุนการผลิตและเพมรายได้ให้แก่เกษตรกร จึงกล่าวได้ว่า ภาคเอกชนนับเป็นตัว
ื่
ิ่
แสดงหลัก (Key actors) ที่สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งการสนับสนุนนี้ครอบคลุมตั้งแต่งบประมาณ
ปัจจัยการผลิต องค์ความรู้ และการอานวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง บางครั้งภาคเอกชนก็
เสนอเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดกิจกรรม และเป็นผู้รวบรวมงบประมาณ ตลอดจนช่วยจัดสรรทรัพยากรให้
อย่างเหมาะสม ซึ่งการที่ภาคเอกชนยังมีความพร้อมในด้านทรัพยากรสูง จึงพร้อมที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและต่อ
ยอดองค์ความรู้เดิมอยู่เสมอ ท าให้สามารถดูแลเอาใจใส่เกษตรกรได้อย่างทั่วถึง ทั้งการให้ค าแนะน าและเข้า
ตรวจเยี่ยมแปลงปลูกมันส าปะหลังอย่างสม่ าเสมอ ตลอดจนสนับสนุนปัจจัยการผลิตบางส่วนให้แก่เกษตรกร
ี
เช่น กากมันส าปะหลังเพอใช้ท าปุ๋ย เครื่องจักรก าจัดวัชพช อกทั้งยังเป็นผู้รับผิดชอบต้นทุนในการตรวจรับรอง
ื่
ื
มาตรฐานผลิตภัณฑ์ เมื่อเกษตรกรได้รับการดูแลก็ยิ่งจูงใจให้เกษตรกรปฏิบัติตามแนวทางอย่างเคร่งครัด ไม่
116