Page 193 - thaipaat_Stou_2563
P. 193
งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓
กฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (3) Budget Cut ลดภาระของรัฐบาลลง โดยการตัดลดงบประมาณของ
ภาครัฐบางส่วน เพื่อเป็นการผลักภาระให้แก่ภาคประชาชนแบกรับค่าใช้จ่ายแทน เช่น การแปรรูปสู่
รัฐวิสาหกิจ การศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น (4) Stabilization การรักษาเสถียรภาพทางการคลังและระบบ
เศรษฐกิจภาพรวม เช่นที่ ฟรีดริช ฟอน ฮาเยก (Friedrich von Hayek) ยังคงมีแนวคิดตามอดัม สมิธ ใน
ส่วนของมือที่มองไม่เห็นในตลาดนั้นย่อมดีกว่าการที่ภาครัฐเข้ามาแทรกแซงระบบเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นไปที่
กลไกราคาที่ไม่บิดเบือนที่มาจากความร่วมมือจากประชาชนที่เปิดกว้างให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม และ มิลตัน
ฟรีดแมน (Milton Friedman) ก็เห็นด้วยกับ ฮาเยก ในส่วนของการแทรกแซงของภาครัฐอันตรายที่สุด
ควำมเหลื่อมล้ ำทำงเศรษฐกิจและสังคม
ิ
วรรณกรรมในส่วนแรกเริ่มจากงานของ โทมัส พเก็ตตี (Thomas Piketty) จากหนังสือเรื่อง
57
ทุนนิยมในศตวรรษที่ 21 หรือ Capital in the Twenty-First Century ซึ่งกล่าวถึงการกระจายความมั่งคั่ง
ที่เป็นผลมาจากทุนนิยมในปัจจุบัน โดย พิเก็ตตี ได้รวบรวมข้อมูลมาจาก 2 แหล่ง ได้แก่ ข้อมูลที่เกี่ยวกับความ
เหลื่อมล้ าด้านรายได้และการกระจายรายได้ ส่วนแหล่งที่สองเกี่ยวกับการกระจายความมั่งคั่ง รวมทั้ง
ความสัมพันธ์ระหว่างความมงคั่งกับรายได้
ั่
งานถัดมาเป็นหนังสือของ โจเซฟ อี. สติกลิตซ์ (Joseph E. Stiglitz) เรื่อง ราคาของความเหลื่อมล้ า
58
หรือ The Price of Inequality: How Today’s Divided Society Endangers our Future ที่มุ่งหมาย
อธิบายถึงสังคมอเมริกา เพราะเป็นประเทศที่ประสบความส าเร็จในการกลายเป็นสังคมที่มีระดับความเหลื่อม
ล้ าด้านรายได้สูงที่สุดในประเทศชั้นน าของโลก ซึ่งเมื่อประเทศอนๆ ด าเนินตามการน าของอเมริกาก็จะประสบ
ื่
ิ่
กับปัญหาความเหลื่อมล้ าที่เพมขึ้นไม่ต่างกัน ในบทความนี้ สติกลิตซ์ มองว่า ความเหลื่อมล้ าที่เกิดขึ้นใน
ประเทศส่วนใหญ่เป็นเป็นหนึ่งในวิกฤตที่โลกนี้เผชิญในยุคปัจจุบัน ผู้คนทุกหนแห่งต่างรับรู้ได้ว่าเป็นสิ่งที่ผิด
ศีลธรรม ไม่สามรถท าให้อยู่ในครรลองคลองธรรมได้ ท าให้เกิดการแบ่งแยกทางสังคมและทดทอนความเป็น
ประชาธิปไตย และรับรู้ได้ถึงความอนตรายของมัน ซึ่งผลกระทบจากความเหลื่อมล้ าเหล่านี้ควรจะเป็นสิ่งที่ใช้
ั
ส าหรับสร้างมาตรการลดความเหลื่อมล้ า แม้ไม่ใช่ทุกคนที่จะค านึงถึงประเด็นนี้ แต่ในที่สุดมันจะมีเหตุผล
่
้
ี
เพยงพอให้เราต้องท าอะไรสักอย่างเพราะเราจะพายแพต่อมันและมันจะท าลายระบบเศรษฐกิจของเรา โดย
บทความนี้ต้องการอธิบายถึงที่มาและธรรมชาติของความไม่เท่าเทียมที่มีหลายมิติ นอกจาก สติกลิตซ์ ได้
อธิบายว่าท าไมมันถึงมีผลกระทบที่ร้ายแรง อีกทั้งเขายังมีข้อโต้แย้งว่า ความไม่เท่าเทียมนี้ไม่ใช่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่มันเป็นผลมาจากนโยบายและการเมือง โดยเขามองว่า นโยบายสร้างปัญหา ดังนั้นมันก็ต้องช่วยให้เราหลุด
พนจากปัญหาได้เช่นกัน ซึ่งมันจะต้องมีนโยบายที่กระตุ้นให้เกิดการลดความเหลื่อมล้ าและสร้างโอกาสในการ
้
รักษาการแบ่งแยกทางสังคม และท าให้เศรษฐกิจเข้มแข็ง และนอกจากนี้ Stiglitz ใช้ประเด็นทางด้าน
ั
สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (climate change) มาอธิบายถึงความสัมพนธ์ที่ท า
ั
ให้เกิดความเหลื่อมล้ า เพราะประเทศพฒนาแล้วท าให้ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงในขณะที่คนจนในประเทศก าลัง
พัฒนามีความใกล้ชิดและใช้ชีวิตกับธรรมชาติมากกว่า
เรื่องต่อมาคือหนังสือ เรื่อง The Great Divide: Unequal Societies and What We Can Do
59
About Them เขียนโดย Joseph E. Stiglitz เช่นเดียวกัน และเป็นหนังสือที่ต่อเนื่องมาจาก The Price of
Inequality: How Today’s Divided Society Endangers our Future และสอดคล้องอย่างยิ่งกับงานของ
พิเก็ตตีในหนังสือเล่มนี้ Stiglitz พยายามอธิบายให้เห็นถึงการด าเนินนโยบายตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี Reagan
จนมาถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ าทั่วโลกและผลที่ตามมาหลังจากนั้น ที่น าไปสู่สังคมอเมริกาที่มีความเหลื่อมล้ าจาก
57 โทมัส พิเก็ตตี, ทุนนิยมในศตวรรษที่ 21, แปลโดย นรินทร์ องค์อินทรี (กรุงเทพฯ : บางกอกโพสต์, 2560).
์
58 โจเซฟ อี. สติกลิตซ, ราคาของความเหลื่อมล้ า, แปลโดย สฤณี อาชวานันทกุล (กรุงเทพฯ : โอเพ่นเวิลด์ส พับลิชชิ่ง เฮาส์, 2556).
59 Joseph E. Stiglitz, The Great Divide: Unequal Societies and What We Can Do About Them (New York : W.W. Norton,
2015).
191