Page 307 - thaipaat_Stou_2563
P. 307
งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓
1.1 ประเด็นความส าเร็จในการท างาน ลักษณะของงานที่ท าและความรับผิดชอบในงานที่ท าของ
การปฏิบัติงานที่ฝ่ายปกครอง ส านักงานเขตปทุมวันที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างที่จะไม่ประสบผลส าเร็จเท่าที่ควร
ขอเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ข้าราชการผู้ปฏิบัติงานในระดับต้นที่ต้องรับภาระงานที่มากและ
ิ่
หลากหลายด้าน ให้สามารถมีผู้ช่วยในการปฏิบัติงานได้ตามความจ าเป็นและมีการเพมค่าล่วงเวลาส าหรับการ
ปฏิบัติงานให้กับข้าราชการฝ่ายปกครอง ส านักงานเขตปทุมวัน เพื่อสร้างขวัญก าลังใจและแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
ซึ่งในส่วนของการด าเนินการในส่วนดังกล่าวนั้นเป็นหน้าที่ของส านักงานเขตปทุมวันที่จะต้องเสนอขอความเห็นชอบ
กับหน่วยงานในระดับกรุงเทพมหานครต่อไป
ื่
1.2 การได้รับการยอมรับนับถือหรือชื่นชมจากผู้บังคับบัญชาหรือเพอนร่วมงานของข้าราชการ
ื่
ฝ่ายปกครอง ส านักงานเขตปทุมวัน ที่มีบางส่วนที่ยังไม่ได้รับการชมเชยจากผู้บังคับบัญชาและเพอนร่วมงาน
อยู่บ้างบางส่วนนั้น ขอเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาโดยในประเด็นนี้ให้มีการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกันระหว่าง
ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน
1.3 ความเจริญเติบโตและความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ของข้าราชการฝ่ายปกครอง ส านักงานเขต
้
ปทุมวัน อยู่ในระดับที่ค่อนข้างที่ไม่ดีเท่าที่ควรและไม่เสมอภาค ขอเสนอแนะแนวทางในการแกไขปัญหาดังนี้ 1)
พิจารณาแยกกลุ่มงานบริหารทั่วไปและกลุ่มงานประชาสัมพันธ์ ออกจากฝ่ายปกครอง เนื่องจากเนื้องานที่แท้จริงของ
2 กลุ่มงานข้างต้นกับกลุ่มงานปกครองมีลักษณะที่แตกต่างกัน ท าให้ข้าราชการมีโอกาสก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้นเป็นการ
ึ่
เพมปัจจัยจูงใจที่มีผลท าให้ข้าราชการเกิดความพงพอใจในการปฏิบัติงานตามทฤษฎีสองปัจจัยของเฮอร์ซเบอร์ก 2)
ิ่
แก้ไขต าแหน่งหัวหน้าฝ่ายปกครอง เป็นต าแหน่งใดก็ได้ที่มีในฝ่ายปกครองที่เป็นต าแหน่งประเภทวิชาการ ระดับ
ช านาญการพเศษ หรือก าหนดให้มีต าแหน่งระดับช านาญการพิเศษที่ไม่ได้มีต าแหน่งทางบริหารในฝ่ายปกครอง
ิ
ส านักงานเขตปทุมวัน ดังที่ก าหนดไว้ในมาตรฐานก าหนดต าแหน่งที่ส านักงาน ก.ก. ได้ก าหนดไว้ดังเช่นที่มีในส านัก
การแพทย์ของกรุงเทพมหานคร เป็นต้น อันเป็นปัจจัยจูงใจที่มีผลท าให้ข้าราชการเกิดความพึ่งพอใจในการปฏิบัติงาน
ตามทฤษฎีสองปัจจัยของเฮอร์ซเบอร์กประการหนึ่งซึ่งในส่วนของการด าเนินการในส่วนดังกล่าวทั้ง 2 ข้อ นั้นเป็น
หน้าที่ของ ส านักงานเขตปทุมวันที่จะต้องเสนอขอความเห็นชอบกับหน่วยงานในระดับกรุงเทพมหานครต่อไป
1.4 ประเด็นนโยบายและการบริหารขององค์การ ประเด็นการบังคับบัญชาและการควบคุมดูแลประเด็น
ั
ความสัมพนธ์ระหว่างบุคคลและประเด็นต าแหน่งงาน ที่ผู้ถูกสัมภาษณ์บางส่วนยังเห็นว่ายังไม่ค่อยเหมาะสม และ
ความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานฝ่ายอื่นๆ ขึ้นอยู่ว่าบุคคลเหล่านั้นมีทัศนคติอย่างไรต่อฝ่ายปกครอง
ตลอดจนโอกาสในการรับการอบรมในวิชาชีพของตนเองเมื่อบรรจุเข้ารับราชการนั้นมีน้อย ขอเสนอแนะแนวทาง ดังนี้
1) ให้ผู้บริหารของส านักงานเขตปทุมวันตั้งแต่ระดับผู้อ านวยการเขต ผู้ช่วยผู้อ านวยการเขต และหัวหน้าฝ่ายทุกฝ่าย
ในสังกัดส านักงานเขตปทุมวัน เน้นศึกษาบริบทและปริมาณงานในหน้าที่ของส านักงานเขตปทุมวันและฝ่ายต่างๆ
ื่
ื้
ื้
เนื่องจากพนที่เขตปทุมวันเป็นพนที่ที่มีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ และมีปริมาณที่ค่อนข้างหลากหลายเพอจะ
ได้มอบหมายงานให้เหมาะสมตรงตามบริบทของฝ่ายต่างๆและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบมากที่สุด 2) เสนอแนะให้มีการ
จัดอบรมผู้บริหารระดับส านักงานเขต อาทิ ผู้อานวยการเขต ผู้ช่วยผู้อานวยการเขต และหัวหน้าฝ่ายต่างๆเกี่ยวกับ
ื่
สภาพงานโดยรวมของส านักงานเขตและฝ่ายต่างๆ เพอสร้างความรู้ความเข้าใจของงานในภาพรวมก่อนเข้าปฏิบัติ
หน้าที่ และให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรในต าแหน่งต่างๆ ส าหรับงานในหน้าที่ของตนเองและงานในภาพรวม
ของส านักงานเขตซึ่งในส่วนของการด าเนินการในส่วนดังกล่าว นั้นเป็นหน้าที่ของส านักงานเขตปทุมวันที่จะต้องเสนอ
ขอความเห็นชอบกับหน่วยงานในระดับกรุงเทพมหานครต่อไป
1.5 ประเด็นค่าตอบแทน และประเด็นชีวิตส่วนตัวขณะรับราชการที่ฝ่ายปกครอง ส านักงานเขต
ปทุมวัน ที่ผู้ถูกสัมภาษณ์ส่วนใหญ่มีภูมิล าเนาอยู่ต่างจังหวัด พักอาศัยโดยเช่าหอพักโดยออกค่าใช้จ่ายจากเงินส่วนตัว
และไกลจากที่ท างานใช้เวลาเดินทางพอสมควร เนื่องจากที่พักแถวที่ท างานมีราคาที่ค่อนข้างสูง พักอาศัยอยู่คนเดียว
305
