Page 31 - Microsoft Word - PAAT Journal V5-2021-awt-v2
P. 31

PAAT Journal Vol. 3 No. 5, June 2021

                    ต่ําไปด้วย Weideman (2004) กล่าวว่าแม้ว่ามีองค์กรเกี่ยวกับที่ดินมากมายแต่ขาดการมีส่วนร่วม

                    ในการพัฒนาอย่างน้อยๆ ใน 3 ส่วนคือ ด้านกฎหมาย ด้านการกําหนดอุปสงค์ และพื้นฐานด้านการตลาด
                    ในการพัฒนาด้านการปฏิรูปที่ดินก็ทําให้การปฏิรูปที่ดินไม่ประสบความสําเร็จ ผู้ศึกษามองว่าการกระจายสิทธิ
                    การถือครองที่ดินได้มีกฎหมายต่าง ๆ มากมายที่กําหนดไว้แต่การดําเนินงานยังไม่เป็นผลสําเร็จเท่าที่ควร
                    เนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่ของประเทศยังอยู่กับนายทุนรายใหญ่ แม้ว่ารัฐจะพยายามสร้างแรงจูงใจ และมาตรการ
                    ต่าง ๆ อีกทั้งกฎหมายก็ยังมีข้อขัดแย้งกันอยู่มากทําให้เป็นอุปสรรคสําคัญในการดําเนินงานตามนโยบาย
                    การแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ
                              ที่ดินของรัฐมีในหลายกระทรวงที่กํากับดูแล แต่ถูกบุกรุกเข้าทําประโยชน์โดยราษฎร เช่น

                    กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ
                    มนุษย์ทั้งนี้รวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แม้ไม่ได้เป็นพื้นที่สงวนหวงห้ามโดยตรงแต่ก็เป็นการบุกรุก
                    พื้นที่ทํากินโดยตรงในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน ปัญหาความขัดแย้งในเรื่องนี้หลายรัฐบาลพยายามจะแก้ไขให้สามารถ
                    เกิดประโยชน์กันทุกฝ่าย ในการบุกรุกที่ดินของรัฐมีมาทุกยุคสมัย เจิมศักดิ์  ปิ่นทอง (2535) ได้ศึกษาเรื่อง
                    “วิวัฒนาการบุกเบิกที่ดินทํากินในเขตป่า” ซึ่งทําให้เห็นการขัดแย้งในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ โดยได้
                    แบ่งเป็น 4 ยุคคือ ยุคสังคมบ้านป่า ยุคสัมปทาน ยุคพืชพาณิชย์ และยุครัฐหวงป่า ซึ่งเป็นยุคที่ภาครัฐเข้าไปมีส่
                    วนร่วมในการจัดการป่าในชุมชนท้องถิ่นอย่างชัดเจน เพราะป่ามีน้อยลง เพื่อที่จะรักษาป่าไม้เอาไว้ จึงมีการ
                    กําหนดเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนประเภทต่าง  ๆ  เอาไว้ให้เป็นของรัฐ และมีการอพยพโยกย้ายขับไล่ชุมชน
                    ออกจากพื้นที่ในบางแห่งจึงเกิดประเด็นขัดแย้งทางกฎหมายระหว่างรัฐและประชาชนในเรื่องป่าและที่ดินจน

                    เป็นปัญหามาถึงปัจจุบัน นิธิ  เอียวศรีวงศ์ (2543) กล่าวว่า คนจนกับนโยบายการทําให้จนของรัฐ เพราะคนจน
                    คือ ผู้ที่ไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของทรัพยากรที่ใช้ในการผลิต และการจะแก้ปัญหาความยากจนจะต้องแก้ไขตั้งแต่
                    โครงสร้างในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ในเรื่องที่ดินและป่าไม้ของรัฐที่ระบบและหน่วยงานราชการขาด
                    การประสานงานกัน ทําให้ละเลยชุมชนท้องถิ่นในการใช้ประโยชน์จากป่า ตลอดจนมีปัญหาความขัดแย้ง
                    ระหว่างประชาชนและหน่วยงานรัฐ นโยบายของรัฐคือตัวหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าว สุริยา  ดงคํา, บําเพ็ญ
                    เขียวหวาน  และ เบญจมาศ  อยู่ประเสริฐ (2554) กล่าวถึงผลการศึกษาสาเหตุการบุกรุกป่า  พบว่าการไม่มี
                    ที่ดินทํากินของชาวบ้าน หรือมีแต่ไม่พอที่จะทํากินเป็นสาเหตุหลัก จึงต้องบุกรุกป่าเพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกพืช

                    เศรษฐกิจเพื่อความมั่นคงทางรายได้ ของครอบครัวอีกทั้งการขาดเอกสารสิทธิในที่ดินก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อ
                    ให้เกิดการบุกรุกที่ดินในเขตป่า และที่สําคัญคือรัฐยังไม่มีมาตรการการจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้ชัดเจน
                    สอดคล้องกับพฤกษา  เครือแสง, วรญา  จตุพัฒน์รังสี และ พรสวรรค์  มณีทอง (2562) กล่าวว่าปัญหาการบุก
                    รุกในที่ดินรัฐเพิ่มมากขึ้น เพราะประชาชนยากจน ขาดที่ทํากิน ด้วยจํานวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและพื้นที่ทํากินมี
                    เท่าเดิม ปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะขาดการดูแลและแก้ไขเนื่องด้วยปัจจัยหลายด้าน อาทิ เจ้าหน้าที่ขาด
                    ความรู้ทางด้านกฎหมายอย่างเพียงพอ ประชาชนขาดจิตสํานึก ไม่ให้ความร่วมมือในการช่วยกันแก้ไขปัญหา
                    โดยอ้างว่าตนมีสิทธิเพราะอาศัยอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ และที่สําคัญประชาชนไม่ทราบกฎหมาย
                    เกี่ยวกับที่ดิน อันเป็นปัญหาสําคัญที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการราชการของหน่วยงานภาครัฐที่ดูแล

                    ดังนั้นผู้ศึกษามองว่า รัฐบาลควรมีแนวทางการบริหารทรัพยากรดินแบบองค์รวม โดยหลักเพื่อปรับปรุง
                    กฎหมายด้านทรัพยากรดินให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สอดคล้องกับรัฐบาลภายใต้การนําของพลเอกประยุทธ์
                    จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้มีแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ.2560-2564)
                    ภายใต้นโยบายบูรณาการการจัดที่ดินและทรัพยากรดินให้มั่นคง เพื่อเศรษฐกิจ สังคมที่มั่งคั่ง อนุรักษ์อย่าง
                    สมดุลและยั่งยืน ภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ 20 กลยุทธ์  โดยเฉพาะในยุทธศาสตร์ที่ 5 การจัดที่ดินให้ประชาชนเพื่อ
                    สร้างคุณภาพชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและลดความเหลื่อมล้ําในสังคม ตามภาพที่ 2

                                                        24                     สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36