Page 129 - thaipaat_Stou_2563
P. 129

งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓



                                                                                             ั
               บทบาทระหว่างทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคประชาชนและชุมชน และภาควิชาการ มีความสัมพนธ์เป็นไปแบบ
                                                                        ื่
                        ึ่
               เกื้อหนุนพงพาอาศัยกันมีการแลกเปลี่ยนทรัพยากรที่แต่ละฝ่ายมีเพอน าไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เป็นเป้าหมาย
                                                                                   ิ
                                                                                          ุ
               โดยงานศึกษาของศิริรักษ์  สิงหเสม เรื่อง เครือข่ายนโยบายและการจัดการภัยพบัติจากอทกภัย กรณีศึกษา
               เฉพาะจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดชัยภูมิ ให้แนวคิดแบบเครือข่ายนโยบายไว้ว่า เพอให้ตัวแสดงได้รับหน้าที่
                                                                                      ื่
               ตามภารกิจที่ก าหนด โดยใช้ทรัพยากรเป็นเงื่อนไขหลักในการก าหนดบทบาทหน้าที่ตัวแสดง ตัวแสดงจะอยู่ใน
               เครือข่ายโดยใช้การเจรจาหารือเป็นหัวใจส าคัญในการก าหนดกิจกรรมการพึ่งพาอาศัยกัน ตัวแสดงต้องประสาน

               นโยบายกันและมองเป้าหมายและสาระส าคัญของนโยบายแบบองค์รวมน าไปสู่การจัดการเดียวกัน ท าให้ตัวแสดง
                                                                                                     ั
               รับรู้ปฏิสัมพนธ์ระหว่างกนอยู่ตลอด  ตัวแสดงจะเรียนรู้ที่จะปรับบทบาทหน้าที่ของตนเองให้สอดคล้องกบการ
                          ั
                                    ั
               ท างานร่วมกันน าไปสู่เป้าหมายในการจัดการร่วมกัน
                       จากการศึกษาทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องพบว่า ยังไม่งานศึกษาใดที่ศึกษาเกี่ยวกับการส่งเสริม
               ความรับผิดชอบต่อสังคมของภาครัฐ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจว่า การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาค
               ธุรกิจในบริบทของการด าเนินงานโดยหน่วยงานภาครัฐจะเป็นไปในรูปแบบใด มีส่วนช่วยผลักดันการท างาน
               ด้าน CSR ของ        ภาคธุรกิจอย่างไรจนก่อเกิดการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ
               โดยเลือกศึกษาจังหวัดราชบุรี หรือ ศูนย์ CSR@Ratchaburi เพราะเป็นจังหวัดน าร่องและเป็นจังหวัดเดียวที่

               ด าเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2558-
                                                                                                ื่
               2560) จนสามารถเป็นต้นแบบในการก าหนดรูปแบบและทิศทางการขับเคลื่อนให้แก่จังหวัดอนได้  และ
               จังหวัดน่าน เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ถูกก าหนดตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงการพฒนาสังคมและความ
                                                                                        ั
                                                                                       ุ
               มั่นคงของมนุษย์ในเวลาต่อมา ประกอบกับเป็นจังหวัดเล็กๆที่ไม่มการจัดตั้งโรงงานงานอตสาหกรรมขนาดใหญ่
                                                                     ี
                                                                                                  ื้
               ในพนที่ โดยในจังหวัดมีเพยง 2 บริษัทที่ด าเนินกิจกรรมการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมในพนที่ จึงมี
                                      ี
                   ื้
               ความน่าสนใจที่ว่าจังหวัดน่านสามารถจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมขึ้นได้อย่างไร และมีการ
               ด าเนินงานอย่างไร
                                   กำรขับเคลื่อนโครงกำรศูนย์ส่งเสริมควำมรับผิดชอบต่อสังคม

                       ส าหรับสถานการณ์ของการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจนั้น การแสดงความ
               รับผิดชอบต่อสังคมของประเทศไทยส่วนใหญ่มุ่งเน้นในรูปแบบกิจกรรมสังคมสงเคราะห์ การช่วยเหลือ การ
               บริจาค กิจกรรมสังคมตลอดจนเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับที่สะท้อน
               การแสดงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย ตลอดจนข้อกีดกันทางการค้าในภาคเอกชนที่จัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจ

                                                    ิ
               ขนาดกลางและขนาดย่อมที่สะท้อนปัจจัยอทธิพลในการด าเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ในมุมมอง
                                                             ิ่
               ของความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจเป็นการเพมต้นทุนการด าเนินการ แต่ปัจจัยเงื่อนไขทางการค้า
               โดยเฉพาะในการส่งออกและการเรียกร้องจากลูกค้าเป็นปัจจัยส าคัญในการขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสังคม
               ของภาคธุรกิจ และเน้นย้ าความส าคัญของวิสัยทัศน์ผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ ในธุรกิจขนาดกลางและขนาด

               ย่อมจะให้ความส าคัญกับมิติของความคุ้มค่าเป็นอนดับแรก ขณะที่บริษัทมหาชนจะสะท้องถึงวิสัยทัศน์หรือกล
                                                        ั
                                                                               ื่
               ยุทธ์องค์กรและภาวะผู้น าเป็นอันดับแรก ทั้งนี้การขับเคลื่อนในระดับสากลเพอให้ตอบรับกับนโยบายและแผน
               ยุทธศาสตร์ชาติสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจมีความจ าเป็นและต้องท าอย่าง
               หลีกเลี่ยงไม่ได้ สะท้อนออกมาในมิติหลัก 2 มิติ คือ มิติที่ 1 องค์กรธุรกิจต้องได้รับการยอมรับจากสังคม การ

               ท าความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจที่ถูกจะน ามายังการได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการจากสังคม อน
                                                                                                        ั
               ได้แก่ การพึ่งพาอาศัย เกื้อกูลกันและกัน และมิติที่ 2 ธุรกิจจะมีการเติบโตร่วมกับชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
               อย่างยั่งยืน (กรมพฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, 2562)
                               ั
                                                                  ั
               จากมาตรฐานและแนวปฏิบัติของสากลมาสู่การก าหนดนโยบายที่สอดรับของภาครัฐ และการบูรณาการความ
                                                                                                     127
   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134