Page 136 - thaipaat_Stou_2563
P. 136
งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓
Keywords social equity, electricity accessibility, right, solar energy, new public administration
บทน ำ
้
การเข้าถึงพลังงานไฟฟา (access to electricity) ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่ามีความส าคัญ
และจ าเป็นต่อการมาตรฐานขั้นต่ าของการด ารงชีวิตทางวัตถุนิยมที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้คน
้
กล่าวคือ พลังงานไฟฟาในที่นี้จึงไม่ใช่ “สิ่งฟมเฟอย” แต่เป็น “สิ่งจ าเป็น” เพราะความเป็นอยู่ในโลกสมัยใหม่
ื
ุ่
นั้นการเข้าถึงพลังงานไฟฟามีความส าคัญอย่างมากเพราะสามารถน าไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายกิจกรรม
้
จากความส าคัญดังกล่าว องค์กรระหว่างประเทศและประเทศต่างๆ ได้ให้ความส าคัญกับการกระจายการเข้าถึง
้
พลังงานไฟฟาให้ทั่วถึงและเป็นธรรม มีการระบุให้การเข้าถึงไฟฟา คือ สิทธิพนฐานในการได้มาซึ่งมาตรฐาน
้
ื้
ของการด ารงชีวิต เช่น อังกฤษ บราซิล และแอฟริกา เป็นต้น (Tully, 2006, p. 31) และจากการส ารวจของ
ส านักงานพลังงานสากล (International Energy Agency: IEA) พบว่า ใน ค.ศ. 2018 เป็นครั้งแรกที่จ านวน
ผู้คนที่ไม่สามารถเข้าถึงพลังงานได้มีจ านวนต่ ากว่า 1 ล้านล้านคน เป็นผลมาจากการขยายตัวของการเข้าถึง
พลังงานในเอเชียและแอฟริกา อกทั้งสถานการณ์การเข้าถึงไฟฟาของไทยจากข้อมูลของธนาคารโลกยังระบุว่า
้
ี
ไทยเป็นประเทศที่มีสัดส่วนอตราการเข้าถึงพลังงานไฟฟาเปรียบเทียบกับจ านวนประชากรโดยสมบูรณ์ตั้งแต่
้
ั
ค.ศ. 2016 (World Bank, 2019)
อย่างไรก็ตาม ความส าคัญของไฟฟาในฐานะสิ่งจ าเป็นและสถานการณ์การเข้าถึงไฟฟาที่ดีขึ้นข้างต้น
้
้
กลับ “ย้อนแย้ง” กับประสบการณ์ของชาวบ้านบ้านวังวน ต าบลหนองตาแต้ม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กว่า
400 ครัวเรือน (NongtatamSAO, 2019) ที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความมืดมิดจากการ “ถูกปฏิเสธ” การ
้
ิ
เข้าถึงไฟฟามานานกว่า 60 ปี ด้วยสาเหตุเรื่องข้อพพาทในที่ดินระหว่างชุมชนกับศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะ
รัชต์ กองทัพบกที่ 2 ด้วยเหตุนี้แม้ว่าชาวบ้านในพนที่จะตระหนักถึงสิทธิของพวกตนในการได้มาซึ่งการบริการ
ื้
ด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และได้เรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ การไฟฟาส่วนภูมิภาคใน
้
้
พนที่เพอด าเนินการขยายเขตติดตั้งเสาพาดสายระบบจ าหน่ายไฟฟา แต่การด าเนินการดังกล่าวกลับถูกยับยั้ง
ื่
ื้
โดยศูนย์การทหารราบในฐานะที่เป็นผู้ถือสิทธิในที่ดิน เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อเรียกร้องของชาวบ้านในพนที่นั้น
ื้
ไม่ได้อ้างสิทธิเหนือที่ดินของชุมชนแต่พวกเขาเรียกร้องถึงสิทธิในการรับบริการสาธารณะ
กำรกลำยลงของผู้ทรงสิทธิ
ความจ าเป็นในการเข้าถึงไฟฟาของคนในชุมชนที่ไม่สามารถประนีประนอมกับศูนย์การทหารราบได้
้
22
ิ
นั้นก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาของศาลปกครองตามค าพพากษาศาลปกครองสูงสุด ชาวบ้าน
ื้
ในพนที่ได้ยื่นฟองร้องหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจ านวน 6 ราย คือ 1) กรมธนารักษ์ 2) กองทัพบก 3) ผู้ว่า
้
้
ราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 4) นายกองค์การบริหารส่วนต าบลหนองตาแต้ม 5) การไฟฟาส่วนภูมิภาค
และ 6) การประปาส่วนภูมิภาค เนื่องจากละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตั้งไฟฟาและประปา และการที่
้
22 โปรดดู ค าพิพากษาฎีกาที่ 651/2553 และ 813/2556
134