Page 156 - thaipaat_Stou_2563
P. 156

งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓



               ในขณะที่ภาครัฐมุ่งที่จะปกป้องไว้ซึ่งพื้นที่ป่าไม้ด้วยการก าหนดให้เป็นเขตป่าสงวน ป่าสงวนแห่งชาติและพัฒนา
                                                                   ุ
                                         ั
               ไปสู่การก าหนดเป็นเขตรักษาพนธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดและเขตอทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า ซึ่งเกิดการทับซ้อน
                                                                                                       ื้
               กับที่ดินท ากินและอยู่อาศัยเดิมของประชาชนโดยมีสาเหตุมาจากการไม่ได้ส ารวจแนวเขตของพื้นที่หรือลงพนที่
                                                             ื้
                                                ื่
               เพอด าเนินการก าหนดขอบเขตที่ดินเพอก าหนดเป็นพนที่เขตเขตป่าสงวนและป่าสงวนแห่งชาติให้มีความ
                  ื่
                                                                                              ั
               ชัดเจน แต่กลับมุ่งด าเนินการามกฎหมายและมุ่งใช้ข้อกฎหมายเพอบังคับต่อประชาชน เมื่อพฒนาไปสู่การ
                                                                       ื่
                                  ั
                                                                                                   ื้
                                                            ุ
                                                                                    ื่
               ก าหนดเป็นเขตรักษาพนธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดและเขตอทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่าเพอยกระดับให้เป็นพนที่หวง
               ห้ามแบบเด็ดขาด ผู้ที่ครอบครองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่ได้มีสิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ซึ่งยิ่งก่อให้เกิด
               ปัญหาและสร้างความรุนแรงของปัญหามากขึ้นเมื่อการบริหารจัดการที่ดินของภาครัฐส่งผลกระทบต่อการด ารง
               ชีพของประชาชน ประชาชนขาดสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพและอยู่อาศัย ประชาชนในพื้นที่จึงเกิด
               การรวมตัวกันเพอเรียกร้องความเป็นธรรมและสิทธิอนชอบธรรมต่อภาครับและพฒนาไปสู่การจัดตั้งเป็น
                                                             ั
                                                                                     ั
                              ื่
                                                  ื่
               องค์กรภาคประชาชนและองค์กรชุมชนเพอเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาจากการบริหารจัดการที่ดิน
               ของภาครัฐ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการด าเนินการแก้ไขปัญหาจากการบริหารจัดการที่ดินในรูปแบบของสิทธิ

                                                                                ิ
               ของชุมชนและโต้แย้งสิทธิ์ในการบริหารจัดการที่ดินในฐานะสิทธิของผู้ซึ่งได้ท ากนและอยู่อาศัยมาก่อนที่อานาจ
               รัฐตามกฎหมายจะเข้ามาบริหารจัดการที่ดินเพื่อปกป้องไว้ซึ่งพื้นที่ป่า
                       ปัญหำในกำรบริหำรจัดกำรที่ดิน
                       ปัญหาในการบริหารจัดการที่ดินแถบเทือกเขาบรรทัดในเขตจังหวัดพทลุงจึงได้เริ่มปะทุและทวีความ
                                                                                ั
               รุนแรงมากขึ้นมาจะกระทั้งปัจจุบันกว่า 59 ปี เมื่อแนวคิดและรูปแบบในการบริหารจัดการที่ดินของภาครัฐกับ

               ภาคประชาชนและองค์กรชุมชนมีความแตกต่างกันและก่อให้การเกิดปัญหาจากการบริหารจัดการที่ดินและ
               ความขัดแย้งด้านที่ดินขึ้น เนื่องจากในอดีตนั้นการเข้ามาก่อตั้งถิ่นฐานในพื้นที่นั้นเป็นการเข้าแผ้วถางผืนป่าเพอ
                                                                                                        ื่
                                        ื่
               จับจองที่ดินในท าไร่ท าสวนเพอการด ารงชีพ พร้อมทั้งมีการสร้างบ้านเรือนเพออยู่อาศัยจนกลายเป็นชุมชนขึ้น
                                                                               ื่
               ในพื้นที่แถบเชิงเขาของเทือกเขาบรรทัดในเขตจังหวัดพทลุงมาจนถึงทุกวันนี้ ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่มีสิทธิ
                                                             ั
               ในการครอบครองที่ดินในสถานะของผู้ที่อยู่อาศัยและท ากินในพนที่มาก่อน โดยมิได้ให้ความส าคัญและความ
                                                                    ื้
               สนใจถึงเอกสารที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของในที่ดินตามรูปแบบหรือข้อก าหนดของหน่วยงานราชการ แต่ให้
                                         ึ่
               ความส าคัญกับการด ารงชีพที่พงพาอาศัยและรักษาดูแลพนที่ป่า แต่ต่อมาเมื่อภาครัฐมุ่งให้ความส าคัญในเรื่อง
                                                               ื้
               การพฒนาประเทศด้วยการส่งเสริมให้มีการขยายพนที่ปลูกยางพาราและให้ด าเนินการปลูกยางให้เป็นไปตาม
                                                          ื้
                    ั
                                                                                                  ี
               ข้อก าหนดของการรับเงินสงเคราะห์การท าสวนยางจากกองทุนสงเคราะห์การท าสวนยาง อกทั้งตาม

               พระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การท าสวนยาง ปี พ.ศ. 2503 จึงก่อให้เกิดการแผ้วถางท าลายพนที่ป่าไม้
                                                                                                  ื้
                  ื่
                                                     ื้
                                          ื้
               เพอท าปลูกยางพาราส่งผลให้พนที่ป่าไม้ในพนที่ลดลงและเกิดปัญหาการตัดไม้ท าลายป่าในวงกว้าง ส่งผลให้
               พนที่ป่าไม้ในภาคใต้ของประเทศไทยมีจ านวนลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพอด ารงและรักษาไว้ซึ่งพนที่ป่าไม้ที่
                                                                             ื่
                                                                                                 ื้
                 ื้
               ยังคงอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ป่าเทือกเขาบรรทัดในเขตจังหวัดพทลุง ภาครัฐจึงมีแนวคิดว่าด้วยการคุ้มครองและ
                                                                  ั
               สงวนป่าไม้ เข้ามาปรับใช้และเป็นแนวทางในการปกป้องและรักษาป่าไม้อนอดมสมบูรณ์ไว้ให้คงอยู่ด้วย
                                                                                   ุ
                                                                                ั
                                              ื้
               นโยบายการบริหารจัดการที่ดินในพนที่ จึงก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งด้านที่ดินระหว่างภาครัฐกับภาค
                                                                       ั
               ประชาชนและองค์กรชุมชนขึ้นในพนที่ และน าไปสู่การโต้แย้งสิทธิ์อนชอบธรรมในที่ดินระหว่างภาครัฐกับประ
                                            ื้
               ประชาชนและองค์กรชุมชนขึ้น

                                               ่       ่                                  เกิดความขัดแย้งด้านทีดิน
                                                                                                         ่
                                            ้
                                                             ์
                                                                   ่
                                              ่
                                                                           ่
                                                                             ่
                                                          ุ
                                   การก าหนดพืนทีปาสงวนและปาอนรักษทับซ้อนทีท ากินและทีอยูอาศัย  ระหว่างภาครัฐกับภาค
                      ั
                     ปญหาใน        เดิม                                                   ประชาชนและองค์กรชุมชน

                    การบริหาร      การชุมนมประท้วงของภาคประชาชนและองค์กรภาคประชาชน
                                         ุ
                         ่
                    จัดการทีดิน                                                                      154
                                   นโยบายในการแก้ไขปญหาทีดินของภาครัฐประสบความล้มเหลว     การอ้างสิทธิ์ความชอบธรรม
                                                  ั
                                                      ่
                                                                                                   ่
                                                                                                ในทีดิน
   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161