Page 164 - thaipaat_Stou_2563
P. 164

งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓





               Keyword:  Constitution, Democratization, Future Forward Party's

                                                          บทน ำ

                       นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยเป็นระบอบเดียวที่ได้รับการ
               ยอมรับอย่างกว้างขวาง และตั้งอยู่บนหลักการเคารพในสิทธิและเสรีภาพของความเป็นมนุษย์ ประกอบกับเป็น

               ระบอบการปกครองที่องค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์กรสหประชาชาติ (United Nation: UN) และสหภาพ
               ยุโรป (European Union: EU) ให้ความส าคัญ ซึ่งทั้งสองเป็นองค์กรที่ด าเนินการให้ความร่วมมือและความ
               ช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้สถานการณ์การเมืองโลกในยุคปัจจุบันให้
               ความส าคัญกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ในประเทศไทยนั้นได้ท าการเปลี่ยนแปลงการปกครองจาก

                                                                               ั
               ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เข้าสู่การปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอนมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
               นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2745 ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาด้านเศรษฐกิจการคลังของประเทศ ที่ได้รับผลกระทบมาจาก
               สภาวะเศรษฐกิจโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 มีผลต่อเนื่องนับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7
               ตามล าดับ ในขณะนั้นเองรัฐบาลไม่สามารถกอบกู้สถานะทางเศรษฐกิจให้อยู่ในสภาวะปกติได้ ประกอบกับ

               ความต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่ความทันสมัยอย่างอารยะประเทศ จึงท าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการ
                                    30
               ปกครองในปี พ.ศ.2475
                       รัฐไทยได้พยายามผูกโยงการปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยเข้ากับแนวคิดรัฐชาติสมัยใหม่ (Nation
               state) นั่นคือ ส านึกความเป็นชาติ ในกรณีของประเทศไทยการปกครองแบบประชาธิปไตยไทยถูกยึดโยงกับ

               ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ งานศึกษาจ านวนหนึ่งชี้ให้เห็นว่าก่อนการเปลี่ยนแปลงการ
               ปกครอง พ.ศ. 2475 ประเทศไทยมีแนวทางการปกครองแบบประชาธิปไตย (Democracy) หรือกล่าวได้ว่า
               ประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งใหม่ส าหรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เนื่องจากกษัตริย์ในสังคมไทยมีความเป็น
                                                                                              31
               ประชาธิปไตยอยู่แล้ว กล่าวคือ กษัตริย์ได้รับการขึ้นครองราชย์จากการเลือกตั้งโดยคณะราษฎร  นอกจากนี้

               ยังมีงานศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่ากษัตริย์ไทยเป็นนักประชาธิปไตย เนื่องจากอานาจเดิมเป็นของกษัตริย์ แต่กษัตริย์
                                                                  32

               ไทยได้มอบอานาจแก่ประชาชนโดยการสละราชสมบัติ  ดังนั้น การให้ความหมายของอดมการณ์
                                                                                                 ุ
               ประชาธิปไตยในประเทศไทยจึงยึดโยงอยู่กับสถาบันกษัตริย์ ซึ่งไม่ตรงกับการให้ค านิยามประชาธิปไตยแบบ
               สากล
                       การน าเสนอบทความฉบับนี้ว่าด้วย กำรช่วงชิงควำมหมำยอำนำจสถำปนำในรัฐธรรมนูญบน

               เส้นทำงกำรพัฒนำประชำธิปไตยผ่ำนเส้นทำงและนโยบำยของพรรคอนำคตใหม ผู้เขียนต้องการสะท้อนให้
                                                                                    ่
                                 ั
               เห็นถึงหลักการการพฒนาประชาธิปไตย (Democratization) โดยมองผ่านกรอบการศึกษาที่มีตัวแสดง คือ
               รัฐธรรมนูญ และ พรรคกำรเมอง ซึ่งทั้งสองตัวแสดงที่กล่าวมานั้นถือว่าเป็นสถาบันทางการเมืองที่ส าคัญ
                                          ื
                                                                                                     ั
               โดยเฉพาะการศึกษารัฐศาสตร์ในกลุ่มสถาบันนิยม (Institutionalism) ด้วยการนี้การเดินทางของการพฒนา
               ประชาธิปไตยของไทยได้ล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการสถาปนาจนล่วงเลยเวลามาจน 80 กว่าปี


               ประชาธิปไตยในรัฐไทยยังคงอยู่ในช่วงของการต่อสู้ ช่วงชิง อานาจ ระหว่าง ประชาชน อานาจรัฐ วัฒนธรรม

               30  ส านักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2558). ระบอบประชำธิปไตยของไทยกับกระแสประชำธิปไตยของโลก. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม
               2562, แหล่งที่มา : www.parliament.go.th.
               31  ณัฐพล  ใจจริง. (2556). ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ. นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน.
               32  นฤพล  สถาพร, ธีรัตม์  แสงแก้ว และธเนศ  ปานหัวไผ่. (2560). กำรศึกษำวิเครำะห์กำรอ้ำงเหตุผลกรณีสร้ำงควำมหมำยเรื่องก ำเนิด
               ประชำธิปไตยไทย. วารสารมนุษย์ศาสตร์ 24(2) หน้า 243-259.
                                                                                                     162
   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169