Page 220 - thaipaat_Stou_2563
P. 220

งานประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓



                       สหรัฐฯ และจีนออกแถลงการณ์ร่วมครั้งที่สองในปี 2015 โดยตกลงที่จะร่วมกันสนับสนุนความตกลง
               ปารีสในเดือนธันวาคม 2015 ส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีด้านการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ

                                                                                ี
               รวมทั้งผลักดันการแก้ปัญหาภูมิอากาศภายในประเทศของตนเอง จีนยังแถลงอกว่าจะเริ่มใช้ระบบการซื้อขาย
                                                                                                ั
               สิทธิในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2017 มีการมอบเงินสนับสนุนประเทศที่ก าลังพฒนาในการ
               แก้ปัญหาโลกร้อน และตั้งเป้าว่าภายในปี 2030 จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วย GDP ให้ได้
               60% ถึง 65% จากระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2005 ส่วนสหรัฐ ฯ ก็แถลงว่าจะร่างแผน

               Clean Power Plan ส าหรับปี 2016 ให้เสร็จโดยเร็ว รวมทั้งออกกฎหมายควบคุมการใช้พลังงานอย่างมี
               ประสิทธิภาพของรถบรรทุกขนาดใหญ่ (Harvard Project on Climate Agreements, 2016, p. 3)
                       นอกจากนี้ ในปี 2013 สหรัฐฯ และจีนยังลงนามใน Montreal Protocol ฉบับแก้ไขใหม่ซึ่งมุ่งลด
               การใช้สารประกอบพวก CFCs (chlorofluorocarbons) และ HCFCs (hydrochlorofluorocarbons) ซึ่ง

               ท าลายชั้นโอโซนได้มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 2016 ก็ได้แถลงถึงผลส าเร็จที่เป็นรูปธรรม
                                           ิ่
               ประกอบกับความตกลงปารีสที่เพงลงนามในปลายปี 2015 แสดงให้เห็นว่าทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะร่วมมือ
               กันลดภาวะโลกร้อน สหรัฐ ฯ พร้อมที่จะเผยแพร่ยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับความตกลงปารีส ส่วนจีนเตรียมจะ
               ร่างยุทธศาสตร์ให้เร็วที่สุด โดยทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันทางเทคนิคและให้ค าปรึกษาในการร่างยุทธศาสตร์

                                                                                                  ื่
               ดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันที่จะร่วมมือผลักดันการลดการปล่อยมลภาวะผ่านเวทีอน ๆ เช่น
                                                                                                      ื่
               องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization หรือ ICAO) เพอลด
               การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการบินพลเรือน โดยยังคงปฏิสัมพนธ์ผ่านเวทีทวิภาคี ไม่ว่าจะเป็น
                                                                              ั
               ศูนย์วิจัยสหรัฐฯ-จีนด้านพลังงานสะอาด (U.S.-China Clean Energy Research Center หรือ CERC) ซึ่ง
               จัดตั้งขึ้นในปี 2009 หรือคณะท างานสหรัฐฯ - จีนด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (U.S.-China
                                                                                              :
               Climate Change Working Group หรือ CCWG) ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี 2013 (FACT SHEET   U.S.-China
               Cooperation on Climate Change, 2016) ซึ่งเป็นผู้จัดการประชุมสุดยอดผู้น าสหรัฐฯ – จีนด้านเมือง
               คาร์บอนต่ าและเท่าทันต่อภูมิอากาศ (U.S.-China Climate-Smart / Low-Carbon Cities Summit) ทั้งสิ้น

               2 ครั้ง คือ ครั้งที่หนึ่ง ในปี 2015 ณ เมืองลอส แองเจลลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และครั้งที่
               สอง ในปี 2016 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน (U.S.-China Climate Change Working Group (CCWG),
               2019) นอกจากนี้ มีการประชุมระดับพหุภาคีในชื่อการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านพลังงานสะอาด (Clean

               Energy Ministerial หรือ CEM) (FACT SHEET: U.S.-China Cooperation on Climate Change, 2016)
               ซึ่งสหรัฐ ฯ และจีนเป็นสมาชิกรวมกันประเทศพัฒนาแล้วและประเทศเศรษฐกิจใหม่อื่น ฯ ซึ่งรวมกันแล้วมีการ
               ปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 75% ของโลกและมีการลงทุนด้านพลังงานสะอาดราว 90% ของโลก สมาชิก
                                                             ั
                                       ื่
               CEM ประชุมร่วมกันทุกปีเพอหารือและผลักดันการพฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด (The Clean Energy
               Ministerial, n.d.)

               สรุป
                       จากการศึกษาพบว่าแม้สหรัฐ ฯ กับจีนมีความขัดแย้งหรือมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในหลายประเด็น

               แต่ก็มีความพยายามที่จะก าหนดแนวทางปฏิบัติที่ยอมรับได้ร่วมกัน สร้างผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งจะเป็น
                 ื้
               พนฐานที่เข้มแข็งส าหรับความสัมพนธ์ที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต แม้จะสร้างความร่วมมือไว้หลายช่องทาง แต่
                                             ั
               สหรัฐฯ และจีนยังหวาดระแวงกันอยู่ กรอบแนวคิด Liberal Institutionalism จะไม่มองว่าเป็นความล้มเหลว
               แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ยาวนานในการสร้างประชาคมนานาชาติที่องอยู่กับกฎเกณฑ์ และการมี
                                                                                  ิ
               ค่านิยมร่วมกัน เพียงแต่กระบวนการดังกล่าวของสหรัฐ ฯ และจีนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

                                                                                                     218
   215   216   217   218   219   220   221   222   223   224   225