Page 63 - Microsoft Word - PAAT Journal V5-2021-awt-v2
P. 63

PAAT Journal Vol. 3 No. 5, June 2021

                    ไทยต้องลุกขึ้นมายกระดับประเทศใหม่เพื่อความอยู่รอด และเพื่อเป็นการสร้างฐานความเจริญครั้งใหม่ของ

                    ประเทศ ไปถึงจุดมุ่งหมายนั้น จึงต้องมีการกําหนดพื้นที่เป้าหมายนําร่องใน 3 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ
                    ระยอง อีกทั้งยังได้กําหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ได้รับการส่งเสริมเพื่อให้เกิดการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม
                    โดยมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับการลงทุนและการพัฒนา
                    กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการอํานวยความสะดวกต่างๆ ในพื้นที่รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการ
                    จัดระบบการสะสมเทคโนโลยี เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของประเทศไทยนอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการ
                    พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ยังมีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560
                    เรื่องการจัดทําแผนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกทั้งหมด 8 แผนซึ่งแต่ละแผนจะ

                    เชื่อมโยงกัน นําไปสู่การพัฒนาพื้นที่ อีอีซีอย่างสมบูรณ์แบบเป็นรูปธรรมและยั่งยืนในทุกมิติ
                    (สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก,2560).
                              เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีบทบาทในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก
                    สําหรับประเทศไทยซึ่งมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเศรษฐกิจในเอเชีย เนื่องจาก
                    ตั้งอยู่ระหว่างจีนไปสู่อินโดนีเซียและระหว่างเวียดนามไปสู่เมียนมาและอินเดีย อีกทั้งยังมีชัยภูมิที่เป็น
                    ศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในด้านการผลิต การค้า
                    การส่งออกและการขนส่งจากการตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV)
                    ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศทีมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความ
                    เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และเทคโนโลยีของโลก รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจกลุ่มประเทศ

                    CLMV ส่งผลให้ไทยต้องปรับตัวแสวงหายุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจใหม่เพื่อให้ทันความเปลี่ยนแปลง โครงการ
                    พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) จึงถือเป็นความหวังหนึ่ง
                    ในการพัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และนําพาประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ปาน
                    กลาง โดยเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริม
                    การค้า การลงทุน และอํานวยความสะดวกในการประกอบกิจการภายใต้คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบ
                    แห่งชาติในปี 2560 อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประเทศไทยสู่
                    การพัฒนาเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โครงการ EEC มีพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี

                    ระยอง
                              รัฐบาลไทยผลักดันโครงการ EEC เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่มีมูลค่าเพิ่ม และมีเศรษฐกิจที่ใช้
                    นวัตกรรม (Innovation-Driven Economy) ทั้งนี้ EEC เป็นโครงการที่มุ่งพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ต่อยอดมาจาก
                    โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (Eastern Seaboard Development Program: ESB) ที่
                    ดําเนินการมาแล้วกว่า 30 ปี และมีส่วนสําคัญในการจ้างงาน รวมถึงเป็นพื้นที่ที่สร้างรายได้และผลิตภัณฑ์มวล
                    รวมของประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) เป็นอย่างมาก  กลไกในการบริหารจัดการพื้นที่ EEC
                    ดําเนินการผ่านการบริหารจัดการของคณะกรรมการนโยบายพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกโดยมี
                    นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติเขต

                    พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 ระบุว่ากฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันไม่เอื้อต่อการพัฒนาพื้นที่ ขาด
                    การวางแผนการบริหารพื้นที่แบบองค์รวม การพัฒนาด้านต่าง ๆ จึงเป็นไปอย่างแยกส่วนและกระจัดกระจาย
                    ทําให้ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกได้อย่างเต็มศักยภาพจึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัติเขตพัฒนา
                    พิเศษภาคตะวันออกเพื่อให้การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกดําเนินการไปได้อย่างมี
                    ประสิทธิภาพ  ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อนุมัติโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่
                    สําคัญในพื้นที่แล้ว พร้อมเร่งพัฒนาระบบการจัดการขนส่งแบบบูรณาการทั้งรถไฟและท่าเรือแบบไร้รอยต่อ

                                                        56                     สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68